แชร์

Wood Pallet: เชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด ลดโลกร้อน : พลังงานแห่งอนาคต

อัพเดทล่าสุด: 10 พ.ย. 2025
53 ผู้เข้าชม

Wood Pellets หรือ ชีวมวลอัดแท่ง เป็นนวัตกรรมเชื้อเพลิงชีวมวล ในรูปเชื้อเพลิงแข็ง (Solid-Fuels) ผลิตจากไม้เนื้อแข็ง จากสวนป่าปลูกของเกษตรกร (Farmed-Trees) ภายใต้แนวทางการจัดการสวนป่าอย่างยั่งยืนสอดคล้องกับมาตรฐานจากองค์การจัดการด้านป่าไม้ในระดับนานาชาติ ซึ่งให้ค่าพลังงานความร้อนสูงเพื่อเป็นเชื้อเพลิงพลังงานทดแทน (Renewable Energy) ที่สะอาด ทดแทนการใช้เชื้อเพลิงจากฟอสซิล (Fossil-Energy) ซึ่งลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสภาวะโลกร้อน (Global Warming) ตอบสนองการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) ของภาคอุตสาหกรรม และการดำรงชีวิตของมวลมนุษย์

จากที่ทราบกันเป็นอย่างดี ไทยเป็นหนึ่งในประเทศแห่งการเกษตรลำดับต้นๆ ของโลกประโยชน์ของการนำของเสียทางเกษตรจำนวนมากมาต่อยอดจึงได้มาถึงแล้ว โดยเราสามารถนำของเสียเหล่านี้ มาทำเป็น ชีวมวลอัดแท่ง (Biomass wood pellet) เพื่อผลิตพลังงานใช้ในอุตสาหกรรมได้โดยไม่ให้เสียทรัพยากรไปโดยสูญเปล่า และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ทั้งนี้ ชีวมวลอัดแท่ง เหมาะแก่เป็นพลังงานหมุนเวียนในธุรกิจโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นตัวช่วยรับมือกับภาษีคาร์บอนที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

ชีวมวลอัดแท่ง (Biomass Wood pellet) คืออะไร ?
ชีวมวลอัดแท่ง มีกระบวนการผลิตอย่างไร ?
ชีวมวลอัดแท่ง แปรรูปเป็นพลังงานได้อย่างไร ?
ข้อดีของ ชีวมวลอัดแท่ง ในบริบทไทย
ชีวมวลอัดแท่ง (Biomass Wood pellet) คืออะไร ?

ชีวมวลอัดแท่ง คือ แท่งพลังงานเชื้อเพลิงแข็ง (Solid-Fuels) ที่ได้จากอินทรีย์สาร หรือก็คือเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร กาก มูลสัตว์และของเสียจากโรงงาน เช่น ขี้เลื่อย แกลบ ฟาง กากอ้อย กะลาปาร์ม กะลามะพร้าว เศษไม้ เศษหญ้า มูลโคและสุกรเปลือกสับปะรด น้ำเสียจากโรงงาน เป็นต้น โดยให้ค่าพลังงานความร้อนสูง สามารถนำมาใช้ในการแปรรูปเป็นพลังที่ใช้ในอุตสาหกรรม และกิจกรรมต่างๆ ได้ และที่สำคัญชีวมวลอัดแท่งนี้ยังเป็นพลังงานหมุนเวียนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
โดยเราสามารถนำ ชีวมวลอัดแท่ง มาแปรรูปเป็นพลังงานได้หลากหลาย
ชีวมวลอัดแท่ง มีกระบวนการผลิตอย่างไร ?

1. กระบวนการย่อย (Crushing process)
เป็นการนำวัสดุทางการเกษตร เช่น ปีกไม้ เศษไม้ เปลือกไม้ ฟางข้าว ที่มีขนาดไม่เหมาะแก่สำหรับการผลิตมาย่อยให้มีขนาดที่เหมาะสมผ่านเครื่องจักรย่อยบด ก่อนที่จะนำไปผลิต
2. กระบวนการลดความชื้น (drying process)
เป็นการนำวัสดุทางการเกษตรมาลดความชื้นให้ถึงในจุดที่เหมาะสม เพื่อให้วัสดุเหมาะกับกระบวนการอัด (pelleting process)
3. กระบวนการผสม (mixing process)
เป็นการนำวัสดุทางการเกษตรตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป มาผสมกัน
4. กระบวนการอัด (pelleting process)
เป็นการขึ้นรูปวัสดุให้เป็นแท่งให้มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางราวๆ 6-10 มม. ยาว 3-6 ซม. หรือตามความต้องการ โดยจะใช้เครื่องจักรในการขึ้นรูป
5. กระบวนการระบายความร้อน (cooling process)
จะเป็นการนำเชื้อเพลิงชีวมวลที่ขึ้นรูปเป็นแท่งแล้ว มาระบายความร้อน เพื่อให้เย็นตัวลง ซึ่งจะทำให้ชีวมวลมีความแข็งคงทนเป็นแท่ง โดยในกระบวนการนี้เป็นอันเสร็จสิ้น
ชีวมวลอัดแท่ง แปรรูปเป็นพลังงานได้อย่างไร ?

ชีวมวลอัดแท่ง สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ทั้งในภาคอุตสาหกรรมโรงงาน และการคมนาคม เป็นต้น ทั้งนี้ชีวมวลอัดแท่งสามารถแปรรูปเป็นพลังงานได้ 4 รูปแบบ
1. เผาไหม้โดยตรง (Combustion)
สามารถทำการแปรรูปโดยนำความร้อนจากการเผาไหม้ชีวมวล ซึ่งจะนำไปใช้ประโยชน์ในการผลิตไอน้ำที่มีอุณหภูมิและความดันสูง จากนั้นไอน้ำจะถูกส่งไปขับกังหันไอน้ำ เพื่อผลิตไฟฟ้า
2. หมัก (Fermentation)
เป็นการนำวัตถุดิบมาหมักในที่อับอากาศ ซึ่งจะแปรรูปวัตถุดิบชีวภาพให้เป็นแก๊ซมีเทน และเป็นเชื้อเพลิงในเวลาต่อมา โดยสามารถนำมาใช้เป็นพลังงานได้
3. ผลิตก๊าซ (Gasification)
ทำการเผาแบบอัดก๊าซจนได้ก๊าซสังเคราะห์ (Syngas) สามารถนำไปใช้กับเครื่องยนต์ก๊าซ (Gas engine) ได้
4. ผลิตเชื้อเพลิงเหลวจากพืช
ทำการย่อยสลายพืชทางการเกษตร ในรูปแบบเอทานอล เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์เบนซิน
ข้อดีของ ชีวมวลอัดแท่ง ในบริบทไทย


ในประเทศไทย ชีวมวลอัดแท่ง ได้รับความสนใจจากอุตสาหกรรมโรงงานไทยในช่วงระยะหลังมานี้ เนื่องจากชีวมวลอัดแท่งสามารถเผาไหม้ได้นาน ซึ่งก็เท่ากับพลังงานที่มาก เหมาะกับการใช้ในรูปของพลังงานความร้อน เพื่อผลิตไอน้ำ หรือใช้เป็นเชื้อเพลิง เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าจากระบบหม้อต้มไอน้ำ ซึ่งมีราคาถูกกว่าเชื้อเพลิงพาณิชย์ชนิดอื่นๆ และสามารถใช้แทนน้ำมันดีเซลในกระบวนการผลิตด้วยความร้อนด้วยต้นทุนที่ประหยัดกว่ามาก อีกทั้งยังช่วยลดการตัดไม้ทำลายป่า เพราะเชื้อเพลิงชีวมวลทำจากทรัพยากรเหลือใช้ทางการเกษตรที่สามารถทดแทนได้ ซึ่งในประเทศไทยก็มีอยู่อย่างเหลือเฟือ
นอกจากนี้ ด้วยความที่ ชีวมวลอัดแท่ง เป็นพลังงานหมุนเวียน จึงถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่จะช่วยรับมือกับมาตรการปรับภาษีคาร์บอนก่อนข้ามพรหมแดน (CBAM) สำหรับธุรกิจไทยที่ส่งออกสินค้าไปยังประเทศสมาชิกในสหภาพยุโรป เพราะต้องบอกเลยว่าต่อไปในอนาคตมาตรการภาษีคาร์บอน (Carbon Tax) จะเกิดขึ้นทั่วโลก เพราะฉะนั้นพลังงานหมุนเวียนสำคัญมาก


อย่างไรก็ตามในปัจจุบันการใช้ ชีวมวลอัดแท่ง ในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ อย่างในโรงงานแปรรูปเกษตรและเคมีภัณฑ์เป็นหลักซึ่งยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนัก เนื่องจากภาคการผลิตไทย ยังไม่มีเทคโนโลยีเครื่องจักรที่ทันสมัย ซึ่งต้องนำเข้าจากต่างประเทศที่ยังคงมีต้นทุนที่สูงอยู่


แต่มีการคาดการณ์ว่าอนาคต ชีวมวลอัดแท่ง ในประเทศไทย จะเติบโตมากขึ้นตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 ซึ่งมีเป้าหมายการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลรวม 4,694 เมกะวัตต์ ภายในปี 2580 หรืออีก 14 ปีข้างหน้า


SOOK TRADING  จำหน่าย ชีวมวลอัดแท่ง (Biomass Wood Pellet) ที่มีส่วนผสมของยางพาราและไม้เนื้อแข็ง ให้พลังงานสูง เป็นเชื้อเพลิงชีวมวลเกรดพรีเมียม ให้ค่าความร้อนสุทธิขั้นต่ำ 4,300 กิโลแคลอรี่ / กิโลกรัม โดยมีปริมาณเถ้าที่ต่ำ และความชื้น (Moisture Content) 

เชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด (Wood Pellet) ผลิตได้จากการนำเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ขี้เลื่อย แกลบ ซังข้าวโพด เหง้ามันสำปะหลัง กะลาปาล์ม เปลือกไม้ เศษไม้หรือขี้เลื่อยจากโรงงานแปรรูปไม้หรือเฟอร์นิเจอร์ มาย่อย ลดความชื้น และนำมาอัดเป็นเม็ดหรือแท่ง ได้เป็นเชื้อเพลิงชีวมวลที่มีความชื้นต่ำ มีค่าความร้อนสูง สะดวกต่อการขนส่ง และสามารถเก็บสต็อกวัตถุดิบได้นาน เหมาะสำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตความร้อนในภาคอุตสาหกรรมหรือโรงไฟฟ้า ในต่างประเทศมีความต้องการใช้เชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ดค่อนข้างสูง จากกระแสสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทน

ญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความต้องการเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ดเพื่อป้อนให้กับโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลที่กำลังทยอยเปิดเพิ่มขึ้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ญี่ปุ่นต้องการใช้เชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด เพิ่มจาก 1.2 ล้านตันในปี 2562 มาเป็น 5 ล้านตันในปี 2565 และ 10 ล้านตันในปี 2570 และไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีศักยภาพทางด้านวัตถุดิบในการผลิต โดยเฉพาะจากการโค่นต้นยางปีละมากกว่า 4 แสนไร่ ซึ่งนอกจากจะได้เนื้อไม้แปรรูปเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ไม้แปรรูปแล้ว ผลพลอยได้ประเภทเศษไม้ เศษขี้เลื่อย ยังสามารถป้อนเป็นวัตถุดิบผลิตเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ดได้ถึงประมาณ 12 ล้านตัน/ปี คิดเป็นมูลค่าเชิงเศรษฐกิจกว่า 40,000 ล้านบาท


อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่จะเป็นเครื่องชี้ถึงความสำเร็จของโอกาสที่ไทยจะสามารถเพิ่มบทบาทการส่งออกเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ดไปยังญี่ปุ่นคือ การสร้างความมั่นใจให้กับผู้นำเข้า ทั้งด้านปริมาณและความต่อเนื่องของวัตถุดิบที่มีความยั่งยืนตลอดช่วงอายุสัญญาซื้อขาย เนื่องจากการสั่งซื้อจากญี่ปุ่นส่วนมากเป็นการทำสัญญาระยะยาว 10-20 ปี ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการของไทย อาจใช้โอกาสจากความพร้อมในด้านต่างๆ พัฒนาผลิตภัณฑ์จาก White Pellet มาเป็น Black Pellet ที่มีค่าความร้อนสูงกว่า พร้อมทั้งขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ ได้อีกด้วย

Wood Pallet เชื้อเพลิงธรรมชาติ แหล่งพลังงานหมุนเวียนในอนาคต


บทความที่เกี่ยวข้อง
ไม้สับ Wood Chip แหล่งเชื้อเพลิงชีวภาพ พลังงานสีเขียว ได้ทั้งพลังงานราคาถูกได้ทั้ง Carbon Credit
ไม้สับเชื้อเพลิง (Wood chips) คือ เศษไม้ขนาดเล็กจากวัสดุเหลือใช้ เช่น กิ่งไม้ เศษไม้จากโรงงาน หรือสวนยางพารา นำมาสับย่อยเป็นชิ้นขนาดพอเหมาะ (ประมาณ 1-2 นิ้ว) ใช้เป็นเชื้อเพลิงชีวมวลที่ให้พลังงานสะอาด ทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล ช่วยลดต้นทุนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นิยมใช้ในโรงไฟฟ้าชีวมวลและอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อผลิตความร้อนและพลังงาน. คุณสมบัติและประโยชน์หลัก พลังงานหมุนเวียน: มาจากทรัพยากรธรรมชาติที่ปลูกทดแทนได้ ยั่งยืน. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: เผาไหม้หมดจด ปล่อย CO2 น้อยกว่า เชื้อเพลิงฟอสซิล เป็น Carbon-Neutral (ถ้ามีการปลูกทดแทน) ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกและปัญหา PM 2.5. ประหยัดต้นทุน: ราคาถูกกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิล (น้ำมันเตา, ก๊าซ). เผาไหม้เสถียร: ให้ความร้อนสูง เหมาะสำหรับ Boiler (หม้อไอน้ำ). สร้างรายได้: เปลี่ยนวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเป็นรายได้ให้ชุมชน. แหล่งที่มา เศษไม้จากโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปไม้ (ปีกไม้). สวนยางพารา (ไม้ฟืน) หรือไม้เศรษฐกิจอื่นๆ เช่น ยูคาลิปตัส. การนำไปใช้ เชื้อเพลิงหลักสำหรับโรงไฟฟ้าชีวมวล. ใช้ในหม้อไอน้ำ (Boiler) ของโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ใช้ผสมกับเชื้อเพลิงอื่น (เช่น กะลาปาล์ม).
24 ธ.ค. 2025
ถ่านกะลามะพร้าวคืออะไร ทำไททางจีนนำเข้าเยอะ ใช้เยอะ By SO OK TRADING
ถ่านกะลามะพร้าว คือ ถ่านที่ผลิตจากกะลามะพร้าว นำมาผ่านกระบวนการเผา (ไพโรไลซิส) บด ผสมกับสารประสาน (เช่น แป้งมัน) แล้วอัดแท่ง ทำให้ได้ถ่านอัดแท่งที่มีคุณสมบัติเด่นคือ ไร้ควัน, ไร้กลิ่นฉุน, ติดไฟนาน, ความร้อนสูงคงที่ เหมาะสำหรับปิ้งย่าง หมูกระทะ ชาบู และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพราะใช้วัตถุดิบเหลือใช้ทางการเกษตร 100%. คุณสมบัติเด่นของถ่านกะลามะพร้าว เผาไหม้สะอาด: ไม่มีควันและกลิ่นฉุน ไม่แตกปะทุ (ไร้ประกายไฟ) ช่วยให้ปลอดภัยและอาหารมีรสชาติที่ดีขึ้น. ร้อนนาน: ให้ความร้อนสูงสม่ำเสมอ ใช้ได้นานกว่าถ่านทั่วไป. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ 100% (กะลามะพร้าว) และวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร. แข็งแรง ทนทาน: เนื้อแน่น ไม่แตกหักง่ายขณะใช้งาน. เถ้าถ่านน้อย: มีขี้เถ้าน้อย ทำให้ทำความสะอาดง่าย. การนำไปใช้ ทำอาหาร: ปิ้ง ย่าง หมูกระทะ ชาบู บาร์บีคิว ตุ๋น นึ่ง. ดับกลิ่น: ใช้ดับกลิ่นในตู้เย็นได้. งานอื่น ๆ: ใช้เป็นไบโอชาร์ (Biochar) ในการปรับปรุงดิน. กระบวนการผลิตโดยสังเขป เผา: เผากะลามะพร้าวในเตาเผา (ไพโรไลซิส). บด: นำถ่านที่ได้มาบดเป็นผงละเอียด. ผสม: ผสมผงถ่านกับแป้งมันสำปะหลัง (ตัวประสาน) และน้ำ. อัดแท่ง: นำส่วนผสมเข้าเครื่องอัดแรงดันสูงให้เป็นรูปทรงแท่ง (เช่น ทรงกระบอกมีรู). อบแห้ง: นำไปอบในตู้อบเพื่อไล่ความชื้น (หรือตากแดด). ประเภท ถ่านอัดแท่ง (Briquette): รูปทรงมาตรฐาน มีรูกลวงตรงกลางเพื่อการเผาไหม้ที่ดีขึ้น (รูปทรงกระบอก, เหลี่ยม). ผงถ่าน (Charcoal Powder): ใช้ในงานที่ต้องการถ่านผงละเอียด เช่น เป็นส่วนผสมในการกรอง หรือดูดซับ.
23 ธ.ค. 2025
โซลาร์เซลล์ ทางเลือกใหม่ของผู้ใช้ไฟ
โซลาร์เซลล์เป็นทางเลือกใหม่ที่ช่วยประหยัดค่าไฟระยะยาว เป็นพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ ผลิตไฟฟ้าใช้เอง ลดค่าใช้จ่าย มีหลายระบบให้เลือก (On-grid, Off-grid, Hybrid) ติดตั้งง่าย ใช้ได้ทุกที่ แต่มีค่าลงทุนเริ่มต้นสูง แต่คุ้มค่าในระยะยาว พร้อมเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง Perovskite ที่กำลังพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้หลากหลายขึ้น ทั้งติดตั้งบนหลังคาอาคาร, หน้าต่าง หรือแม้กระทั่งใช้กับยานยนต์ไฟฟ้า. ข้อดีหลัก ประหยัดค่าไฟ: ลดค่าไฟฟ้าได้มากถึง 70% และคืนทุนใน 3-5 ปี. พลังงานสะอาด: เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่สร้างมลพิษ. พลังงานหมุนเวียน: ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ที่ไม่จำกัด. ใช้ได้ทุกที่: ติดตั้งได้ทั้งบ้าน อาคาร หรือพื้นที่ห่างไกล. ระบบโซลาร์เซลล์ยอดนิยม On-Grid: ต่อตรงกับไฟบ้าน ได้รับความนิยมมาก คืนทุนเร็ว เหมาะกับผู้ใช้ไฟทั่วไป. Off-Grid: ใช้กับแบตเตอรี่ เหมาะกับพื้นที่ที่ไม่มีไฟฟ้า แต่ค่าใช้จ่ายสูงกว่า. Hybrid: ผสมผสาน On-Grid และ Off-Grid ใช้ได้ทุกสถานการณ์ แต่ลงทุนสูง. นวัตกรรมใหม่ที่น่าสนใจ Perovskite Solar Cells: เทคโนโลยีใหม่ น้ำหนักเบา ยืดหยุ่นสูง ประสิทธิภาพสูง เหมาะกับงานหลากหลาย เช่น ฉีดพ่นบนอาคาร, หน้าต่าง. พลังงานจากเม็ดฝน (TENG): เทคโนโลยีที่ผสมผสานเพื่อผลิตไฟฟ้าจากเม็ดฝนตกกระทบแผง ทำให้ผลิตไฟฟ้าได้แม้ในวันฝนตก. สิ่งที่ต้องพิจารณา ขนาดแผง: คำนวณให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จะใช้. ผู้ผลิต: เลือกผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ มีการรับประกันยาวนาน. การบำรุงรักษา: ทำความสะอาดแผงเป็นประจำเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด. โซลาร์เซลล์จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมได้ดีเยี่ยมสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าทุกกลุ่ม.
12 ธ.ค. 2025
This website uses cookies for best user experience, to find out more you can go to our นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy