SOOK ขอเสนอการข้อมูลการใช้งานสายไฟฟ้า ทองแดง และ อลูมิเนียม รวมทั้งสายไฟรถ EV เกร็ดความรู้

สายไฟ และ ความสัมพันธ์กับ กลุ่มแร่ NON FERROUS
ALUMINUM
สายไฟอลูมิเนียม คือสายไฟที่มีตัวนำไฟฟ้าทำจาก อลูมิเนียม แทนที่จะเป็นทองแดง ซึ่งมีน้ำหนักเบาและราคาถูกกว่า ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องเดินสายระยะไกล เช่น การติดตั้งบนเสาไฟฟ้า แต่มีข้อเสียคือขนาดใหญ่กว่าทองแดงเมื่อเทียบกระแสไฟฟ้าเท่ากัน และอาจนำกระแสไฟฟ้าได้ไม่ดีเท่าทองแดง ทำให้ไม่เหมาะกับการใช้งานภายในอาคารที่ต้องการพื้นที่น้อยกว่า
คุณสมบัติและลักษณะของสายไฟอลูมิเนียม
น้ำหนักเบา: มีน้ำหนักประมาณครึ่งหนึ่งของสายไฟทองแดง ทำให้ขนส่งและติดตั้งได้ง่าย โดยเฉพาะการแขวนลอยเป็นระยะทางไกล
ราคาถูก: มีราคาถูกกว่าทองแดง จึงช่วยประหยัดต้นทุนได้มากกว่า
ตัวนำ: มีค่าการนำไฟฟ้าประมาณ 61% ของทองแดง ดังนั้นหากต้องการกระแสไฟฟ้าเท่ากันจะต้องใช้สายไฟอลูมิเนียมที่มีหน้าตัดใหญ่กว่าทองแดง
การใช้งาน: นิยมใช้ในการเดินสายภายนอกอาคาร เช่น บนเสาไฟฟ้า (สายเปลือยหรือมีฉนวน) และในสายส่งไฟฟ้าแรงสูง
ฉนวน: ส่วนใหญ่หุ้มด้วยฉนวนพลาสติก เช่น PVC หรือ XLPE เพื่อความปลอดภัย
ประเภทของสายไฟอลูมิเนียม
THW-A: สายแกนเดี่ยว หุ้มฉนวน PVC สำหรับงานแรงดันต่ำ เช่น การติดตั้งแบบเปิด หรือเดินลอยบนลูกถ้วย
SAC (Spaced Aerial Cable): สายแกนเดี่ยว อะลูมิเนียมอัดแน่น หุ้มฉนวนและเปลือก XLPE สำหรับระบบแรงดันปานกลาง ใช้แขวนลอยบนเสาไฟฟ้า
AAC (All Aluminum Stranded Conductor): สายอะลูมิเนียมตีเกลียวแบบเปลือย สำหรับแขวนบนเสาไฟฟ้าแรงสูง
ACSR (Aluminium Conductor Steel Reinforced): สายอะลูมิเนียมตีเกลียวเสริมแกนเหล็ก เหมาะสำหรับแขวนบนเสาส่งไฟฟ้าแรงสูง เนื่องจากรับแรงดึงได้สูงกว่า
COPPER
สายไฟที่ทำจากทองแดง คือ สายไฟที่มีตัวนำไฟฟ้าทำจากโลหะทองแดง ซึ่งมีคุณสมบัติการนำไฟฟ้าสูง ทนทาน และสามารถใช้งานได้หลากหลาย ทั้งแบบสายเดี่ยวและหลายแกน สายไฟทองแดงมีหลายชนิด เช่น THW (สายเดี่ยวหรือสายกลม), VAF (สายแบนสำหรับภายในอาคาร), และ VCT (สายทองแดงฝอยอ่อนตัว) ซึ่งแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกันไปตามความเหมาะสม
ประเภทของสายไฟทองแดง
สายไฟ THW (60227 IEC01): เป็นสายไฟแกนเดี่ยว (หรือหลายเส้นตีเกลียวรวมกัน) หุ้มฉนวน PVC เหมาะสำหรับเดินสายภายในอาคาร, เดินลอยในอากาศ, หรือเดินในท่อ
สายไฟ VAF/VAF-G: เป็นสายแบน มีแกนเป็นทองแดง เหมาะสำหรับใช้เดินสายไฟทั่วไปภายในบ้านและอาคาร โดยเฉพาะการเดินเกาะผนังและในช่องเดินสาย
สายไฟ VCT/VCT-G: เป็นสายไฟที่มีแกนทองแดงเป็นเส้นฝอย ทำให้มีความอ่อนตัวสูงและทนต่อการสั่นสะเทือนได้ดี เหมาะสำหรับใช้เป็นสายไฟเข้าเครื่องจักร, งานเดินร้อยท่อฝังดิน หรือติดตั้งบนรางเคเบิล
สายไฟ NYY/NYY-G: เป็นสายไฟทองแดงที่มีความทนทานสูง หุ้มฉนวนและเปลือกหลายชั้น เหมาะสำหรับใช้งานภายนอกอาคาร เช่น วางบนรางเคเบิล, ร้อยท่อฝังดิน หรือฝังดินโดยตรง
สายไฟ CV: เป็นสายไฟทองแดงที่ใช้ฉนวนแบบ XLPE สามารถเดินสายได้หลากหลายรูปแบบ เช่น วางบนรางเคเบิล, ร้อยท่อฝังดิน หรือฝังดินโดยตรง
ข้อดีของสายไฟทองแดง
การนำไฟฟ้าสูง: ช่วยลดความร้อนและสูญเสียพลังงานน้อยกว่าสายไฟคุณภาพต่ำ
ทนทานและอายุการใช้งานยาวนาน: ทนความร้อนได้สูงและเสื่อมสภาพช้า
ความปลอดภัยสูง: ลดความเสี่ยงไฟฟ้าลัดวงจร และฉนวนทนทานป้องกันไฟฟ้ารั่วได้ดี
NICKEL
สายไฟโดยทั่วไปไม่ได้ทำจากนิกเกิลทั้งหมด แต่ใช้เป็นวัสดุ เคลือบ เพื่อเพิ่มคุณสมบัติให้กับอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับสายไฟ เช่น เคเบิ้ลแกลน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ยึดและป้องกันสายไฟ โดยจะทำจาก ทองเหลืองชุบนิกเกิล ทำให้ทนทานต่อการกัดกร่อน นอกจากนี้ สายไฟบางประเภทอาจมีแกนกลางทำจากลวดนิกเกิล สำหรับการใช้งานเฉพาะทาง เช่น สายเคเบิลที่มีความร้อนสูง
การใช้งานนิกเกิลในระบบสายไฟ
เคเบิ้ลแกลนทองเหลืองชุบนิกเกิล (Nickel-Plated Brass Cable Gland):เป็นอุปกรณ์สำหรับยึดและป้องกันสายไฟในระบบไฟฟ้า
มีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อน น้ำ และฝุ่นได้ดี เนื่องจากมีการชุบนิกเกิล
เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่ใช้งานหนัก เช่น กลางแจ้ง หรือในโรงงานอุตสาหกรรม
แกนลวดนิกเกิล (Nickel Wire Conductor):พบในสายไฟบางประเภท เช่น สายเคเบิลใยแก้วซิลิกาถักตัวนำนิกเกิล
เหมาะสำหรับงานที่ต้องการคุณสมบัติทนความร้อนสูง
สรุป
ตัวนำสายไฟ ที่นิยมใช้ทั่วไปมักทำจากทองแดงหรืออลูมิเนียม
นิกเกิล ถูกนำมาใช้เป็นวัสดุเคลือบหรือวัสดุสำหรับส่วนประกอบเฉพาะของสายไฟ เพื่อเพิ่มความแข็งแรง ทนทาน และคุณสมบัติด้านการป้องกันจากสภาพแวดล้อม
สายไฟที่ใช้ในรถ EV ทำมาจาก NON FERROUS ประเภทใด ?
สายไฟสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยทั่วไปทำจาก ทองแดง เป็นแกนหลัก เนื่องจากนำไฟฟ้าได้ดีและมีความยืดหยุ่น ส่วนเปลือกหุ้มมักทำจากวัสดุที่เป็นพลาสติก เช่น TPE (ThermoPlastic Elastomer) หรือ TPU (Thermoplastic Polyurethane) เพื่อป้องกันความเสียหายและเพิ่มความทนทาน
ส่วนประกอบหลักของสายไฟ EV
แกนนำไฟฟ้า:ทองแดง: เป็นวัสดุที่นิยมที่สุด เพราะนำไฟฟ้าได้ดี ทนทาน และงอได้ง่ายกว่าโลหะอื่น
สายอ่อนมัลติคอร์: สายไฟ EV จะเป็นสายอ่อนแบบหลายแกน ซึ่งมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับการติดตั้งในรถ
เปลือกหุ้มฉนวน:TPE (ThermoPlastic Elastomer): เป็นวัสดุที่นุ่มและยืดหยุ่นกว่า ทำให้สายมีความยืดหยุ่นและทนทานต่อสภาพอากาศ
TPU (Thermoplastic Polyurethane): มีความทนทานและแข็งแรงกว่า
PVC (Polyvinyl Chloride): เป็นวัสดุที่คุ้มค่าและนิยมใช้กันมาก โดยมีความทนทานต่อความร้อน ความชื้น และสารเคมี
ส่วนประกอบอื่นๆ:วัสดุป้องกัน: เพื่อป้องกันสายจากสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น การขูดขีด แรงกระแทก แสงแดด และความชื้น
สายไฟที่ใช้ในสถานีชาร์จรถ EV ทำมาจาก NON FERROUS ประเภทใด ?
สายไฟสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ประกอบด้วย ตัวนำไฟฟ้า ที่ทำจาก ทองแดง ซึ่งเป็นตัวนำที่ดีที่สุด และ ฉนวน ที่หุ้มด้านนอก ซึ่งทำจากวัสดุที่ทนทาน เช่น PVC, TPU, หรือ TPE เพื่อป้องกันอันตรายและความเสียหาย
ส่วนประกอบของสายไฟ
ตัวนำ: ทำจาก ทองแดง ซึ่งมีคุณสมบัติการนำไฟฟ้าได้ดีเยี่ยม
ฉนวนและเปลือกนอก: ทำจากวัสดุที่ทนทานและปลอดภัย เช่นTPE (ThermoPlastic Elastomer): มีความยืดหยุ่น ทนทาน และไม่แตกหักง่าย
TPU (Thermoplastic Polyurethane): แข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ และทนทานต่อสภาพอากาศได้ดี
PVC (Polyvinyl Chloride): เป็นวัสดุที่นิยมใช้โดยเฉพาะในรุ่นที่มีราคาประหยัด
ไนลอนถัก: ช่วยเพิ่มความทนทาน ป้องกันสายขาดหรือเสียหายง่าย
สายไฟใน SOLAR CELL , SOLAR FARM ทำจาก NON FERROUS ประเภทใด ?
สายไฟโซลาร์เซลล์ทำจาก ทองแดงเคลือบดีบุก เป็นตัวนำไฟฟ้า ส่วนฉนวนและเปลือกนอกทำจากวัสดุที่ทนทานต่อสภาพอากาศสูง เช่น XLPE (Cross-linked Polyethylene) หรือ XLPO (Cross-linked Polyolefin) เพื่อป้องกันความชื้น ความร้อน แสงแดด และการกัดกร่อน
ส่วนประกอบหลักของสายไฟโซลาร์เซลล์
ตัวนำไฟฟ้า (Conductor): ทำจากทองแดงเส้นฝอยเคลือบดีบุกทองแดง: ทำหน้าที่เป็นตัวนำไฟฟ้าหลัก
การเคลือบดีบุก: ช่วยป้องกันการเกิดออกไซด์และการกัดกร่อน ทำให้มีความทนทานต่อความชื้นและรักษาประสิทธิภาพการนำไฟฟ้าได้ดี
ฉนวนและเปลือกนอก (Insulation and Sheath):ฉนวน: หุ้มตัวนำไฟฟ้าเพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร
เปลือกนอก: หุ้มฉนวนอีกชั้นเพื่อเพิ่มความทนทาน
วัสดุ: มักใช้สารที่ทนทานต่อสภาพอากาศ เช่น XLPE หรือ XLPO ซึ่งทนต่ออุณหภูมิสูงและแสงแดดได้ดี
การออกแบบ: ตัวสายจะประกอบด้วยเส้นลวดเล็ก ๆ จำนวนมาก เพื่อให้การไหลของไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ทำได้ดีที่ผิวของตัวนำ และลดการสูญเสียพลังงาน
สรุปทิศทางการใช้สายไฟในอนาคต EV , SOLAR CELL , SOLAR FARM , SMART CITY , DATA CENTER , GENERAL ELECTRICITY
ผลวิจัยคาดการณ์ว่าภายในปี 2593 ความต้องการผลิตไฟฟ้าทั่วโลกจะพุ่งสูงขึ้นถึง 3 เท่า และจากความต้องการใช้ไฟฟ้าที่พุ่งสูงขึ้นนี้ จะส่งผลต่อไปยังความต้องการสายไฟทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น ทะลุ 80 ล้านกิโลเมตร ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมโลก รวมถึงความท้าทายและโอกาสใหม่ ๆ ในภาคอุตสาหกรรมพลังงาน
สอดคล้องกับการที่ ความต้องการสายไฟทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากสายไฟและสายเคเบิลที่ผลิตจากวัสดุเกรดพรีเมียม มีคุณภาพสูงสุด อาทิ สายไฟฟ้าจากทองแดงบริสุทธิ์ 99.99% อะลูมิเนียมบริสุทธิ์ 99.7% ที่นำไฟฟ้าได้ดีเยี่ยม ทนทานต่อการกัดกร่อน ปลอดภัยต่อการใช้งาน สายทนไฟที่ผ่านการทดสอบคุณสมบัติทนความร้อนได้ดี
และร่วมพัฒนาระบบไฟฟ้าของประเทศ รองรับการขยายตัวของเมืองและกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ด้วยสายไฟฟ้าที่ผ่านการรับรองมาตรฐานคุณภาพชั้นนำระดับนานาชาติ ที่ผ่านการทดสอบคุณภาพสายไฟในห้องปฏิบัติการทดสอบทางไฟฟ้าอย่างละเอียดใน LAB และ หน้างาน ตลอดจน นวัตกรรม ใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ สายไฟเพื่ออนาคต และ สิ่งแวดล้อม ด้วยการอำนวยความสะดวกสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมด้านพลังงานหมุนเวียนที่เกี่ยวข้องกับสายไฟฟ้า เพื่อเชื่อมโยงประเทศไทยสู่เส้นทางอนาคตในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ โ
นอกจากนี้ ในระยะกลาง 3 ปี (ปี 67-69) ธุรกิจสายไฟฟ้าและสายเคเบิลในภูมิภาคอาเซียน ยังคงเติบโตด้วยการตอบโจทย์ความต้องการไฟฟ้าของทั้งไทยและโลก ด้วยการเติบโตอย่างยั่งยืน ยึดมั่นบริหารจัดการอย่างมีธรรมาภิบาล และ ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคม ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และผลิตสายเคเบิลที่จำเป็นในการรองรับความต้องการด้านไฟฟ้าของโลกยุค Net-Zero รวมถึงการพัฒนา นวัตกรรม และ ความรู้ใหม่ เพื่อไปมีการพัฒนาร่วมไปกับ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และ เครือข่ายทั้งสังคมไทย และ สังคมโลก
ความต้องการสายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากหลากหลายปัจจัย ทั้งนโยบายการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ จากทั่วประเทศ การเดินหน้าแผนพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าให้มีความทันสมัย การขยายตัวต่อเนื่องของธุรกิจที่ต้องการใช้ไฟฟ้ามหาศาล เช่น การดึงพลังงานมาใช้ในระบบดาต้า เซ็นเตอร์ ไปจนถึงการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานทดแทนของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ให้สอดคล้องกับทิศทาง Net Zero ซึ่งสายไฟฟ้าจะเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญ ที่จะช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้พลังงานหมุนเวียน และขับเคลื่อนอนาคตของเมืองต่อไปได้
*****

