แชร์

เกร็ดความรู้ ทุเรียนไทย ราชาผลไม้ by SO OK Trading

อัพเดทล่าสุด: 28 ธ.ค. 2025
109 ผู้เข้าชม

ทุเรียนไทย ราชาแห่งผลไม้

ทุเรียนไทย ถือว่าหนึ่งในเป็นสินค้าผลไม้คุณภาพสูง รสชาติหวานละมุน กลิ่นหอม เปลือกบาง เม็ดเล็ก มีจุดเด่นเรื่องทุเรียนสดที่มีมาตรฐานสุขอนามัยที่ดี มีรสชาติหวานละมุนกว่าทุเรียนสายพันธุ์อื่น ๆ ในอาเซียน

อีกทั้งไทยยังมีข้อได้เปรียบเรื่องของผลผลิตออกได้นาน และผลผลิตออกไม่พร้อมกัน เช่น แหล่งผลิตภาคตะวันออก (มี.ค.-มิ.ย.) และแหล่งผลิตภาคใต้ (มิ.ย. - ธ.ค.)

-----

ทุเรียนไทย ด้วยรสหวานและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นที่ถูกอกถูกใจนักกินทั้งไทยและต่างชาติ จนถูกยกเป็นราชาแห่งผลไม้ ถึงฤดูเก็บเกี่ยวทีไร เรียกได้ว่าแทบจะไม่พอขายกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะ 9 สายพันธุ์ทุเรียนไทยยอดฮิตที่นำมาฝากกันในวันนี้ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ทุเรียนราคาสูงที่นิยมปลูก กลิ่นหอมยั่วยวนทะลุหนาม พร้อมวิธีซื้อให้ได้ผลสุกกำลังดี กลับบ้านแล้วปอกเปลือกกินได้เลย

ทุเรียนที่ปลูกได้ในไทย
ศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี กรมวิชาการเกษตร ได้รวบรวมพันธุ์ทุเรียนที่มีการปลูกในเมืองไทยไว้กว่า 600 สายพันธุ์ และแบ่งออกเป็น 6 กลุ่มใหญ่ตามทรงของผลทุเรียน ดังนี้

กลุ่มกบ : ทรงผลกลม มีทั้งแบบทรงรี ทรงกลม และแป้น หนามโค้งงอ มี 46 สายพันธุ์ เช่น กบตาดำ กบทองคำ กบชายน้ำ กองสุวรรณ กบพิกุล กบเล็บเหยี่ยว กบก้านสั้น กบหน้าศาล 
กลุ่มลวง : ทรงผลมี 2 แบบ คือ ทรงกระบอกและทรงรี หนามเว้า มี 12 สายพันธุ์ เช่น ชะนี ชะนีก้านยาว รวงทอง สายหยุด 
กลุ่มก้านยาว : ทรงผลกลม รูปไข่กลับ หนามนูน มี 8 สายพันธุ์ เช่น ก้านยาว ก้านยาววัดสัก ต้นใหญ่ ทองสุข 
กลุ่มกำปั่น : ทรงผลเป็นทรงขอบขนาน หนามแหลมตรง มี 13 สายพันธุ์ เช่น หมอนทอง ปิ่นทอง กำปั่นเหลือง กำปั่นแดง 
กลุ่มทองย้อย : ทรงผลรูปไข่ หนามนูนปลายแหลม มี 14 สายพันธุ์ เช่น ทองใหม่ นกหยิบ ทับทิม ทองย้อยฉัตร
กลุ่มเบ็ดเตล็ด : เป็นกลุ่มที่มีสายพันธุ์เยอะที่สุด แต่ไม่สามารถบอกลักษณะได้ชัดเจน เพราะอาจจะมีบางจุดที่คล้ายคลึงกับ 5 สายพันธุ์ข้างต้น คาดว่าน่าจะเกิดจากการพัฒนาของเกษตรกรสวนต่าง ๆ ในขณะนี้มีทั้งหมด 81 สายพันธุ์ด้วยกัน เช่น พวงมณี บางขุนนนท์ กระดุมทอง หลงลับแล หลินลับแล เป็นต้น

-----
9 สายพันธุ์ทุเรียนไทย ขายดี กำไรงาม
มารู้จักพันธุ์ทุเรียนไทยที่นิยมปลูกและเป็นที่ต้องการของตลาด ว่ามีลักษณะผลและรสชาติเป็นอย่างไรบ้าง รวมถึงราคาขายโดยประมาณ ดังต่อไปนี้
  
1. ทุเรียนพันธุ์ก้านยาว
มีแหล่งปลูกหลักอยู่ในจังหวัดนนทบุรี ก้านใหญ่และยาวกว่าพันธุ์อื่น ผลทรงกลม หนักประมาณ 2-3 กิโลกรัม หนามเล็กสั้นและถี่ เนื้อในสีเหลืองทอง นุ่มเนียน รสชาติหวานมัน กลิ่นหอม ราคาจะแพงมากเพราะปัจจุบันนี้หากินได้ยาก มีสวนปลูกน้อย ราคาเฉลี่ยต่อลูกประมาณ 5,000-15,000 บาท
2. ทุเรียนพันธุ์หลงลับแล และหลินลับแล
มีต้นกำเนิดมาจากอำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ลักษณะผลเล็ก กลมรี หนักประมาณ 1-3 กิโลกรัม หนามโค้งแหลมคม สีของเนื้อหลงลับแลอ่อนกว่าหลินลับแล เนื้อในเหนียวเนียนละเอียด เม็ดเล็ก รสชาติหวานจัด มีกลิ่นหอมคล้ายดอกไม้ เนื่องจากต้องปลูกบนเขา การรดน้ำและขนส่งทำได้ค่อนข้างยาก ราคาจึงสูง ประมาณ 250-500 บาทต่อกิโลกรัม
3. ทุเรียนพันธุ์ป่าละอู
เป็นทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่นำมาปลูกในป่าละอู อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผลเป็นวงรี หนักประมาณ 2-5 กิโลกรัม หนามคม เนื้อหนาเนียนละเอียด สีเหลืองอ่อน มีกลิ่นอ่อน ๆ เม็ดลีบ รสชาติหวานมัน ราคาประมาณ 250-350 บาทต่อกิโลกรัม
4. ทุเรียนพันธุ์ภูเขาไฟ
มีต้นกำเนิดจากจังหวัดศรีสะเกษ เป็นสายพันธุ์เดียวที่มาจากภาคอีสาน ปลูกในบริเวณที่เป็นภูเขาไฟเก่า ทำให้ดินมีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต ผลขนาดกลาง หนักประมาณ 2-3 กิโลกรัม เนื้อจะมีสีเหลืองอ่อน แห้ง ละเอียด ไม่ติดมือ กลิ่นหอมปานกลาง รสชาติหวานมัน ราคาประมาณ 150-250 บาทต่อกิโลกรัม
5. ทุเรียนพันธุ์พวงมณี
          เป็นพันธุ์พื้นบ้านของจังหวัดระยอง เป็นพันธุ์เล็ก หนักประมาณ 1.5-2.5 กิโลกรัม ผลทรงรี ปลายผลแหลม หนามตรงนูนแหลม เนื้อสีเหลืองเข้ม เนียนละเอียดไม่มีเสี้ยน รสชาติหวาน กลิ่นหอมอ่อน ๆ จุดเด่นคือ ผลดก ติดเป็นพวงใหญ่ ราคาประมาณ 150-200 บาทต่อกิโลกรัม 
6. ทุเรียนพันธุ์นกกระจิบ
          มีต้นกำเนิดจากจังหวัดนนทบุรี และขยายพันธุ์ไปปลูกในภาคตะวันออก ผลเล็ก หนักประมาณ 1-2 กิโลกรัม เนื้อละเอียด สีเหลืองเข้ม กลิ่นหอมละมุน ติดดอกออกผลเร็วกว่าพันธุ์อื่น ๆ ปลูกประมาณ 4-5 ปี ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลได้แล้ว ราคาประมาณ 130-150 บาทต่อกิโลกรัม
7. ทุเรียนพันธุ์หมอนทอง
เป็นพันธุ์ยอดนิยม หาซื้อง่าย ราคาไม่สูง และกลิ่นหอมอ่อน ๆ ลักษณะผลใหญ่ หนักประมาณ 3-4 กิโลกรัม หนามแหลมตรง มีขนาดใหญ่-เล็กสลับหว่างกัน เนื้อในสีเหลืองนวล นุ่มละเอียด ไม่ติดมือ เม็ดเล็ก รสชาติไม่หวานมาก ราคาประมาณ 90-130 บาทต่อกิโลกรัม
8. ทุเรียนพันธุ์ชะนี
อีกหนึ่งพันธุ์ยอดนิยม มีกลิ่นแรงเป็นเอกลักษณ์ ผลขนาดกลางถึงใหญ่ หนักประมาณ 3-5 กิโลกรัม หนามใหญ่ สั้น และห่าง เนื้อในสีเหลืองเข้ม ละเอียด มีเสี้ยนเล็กน้อย รสชาติหวานจัด เมื่อสุกเนื้อจะเละ จึงนิยมนำไปแปรรูปเป็นอาหารหรือขนมหวานต่าง ๆ ราคาประมาณ 65-100 บาทต่อกิโลกรัม
9. ทุเรียนพันธุ์กระดุมทอง
ลักษณะผลเล็ก หนักประมาณ 1 กิโลกรัม หนามนูนปลายแหลมและถี่ เนื้อสีเหลืองเข้ม เนียนละเอียด เม็ดใหญ่ เมื่อสุกจัดเนื้อจะเละ รสชาติหวาน ราคาประมาณ 70-80 บาทต่อกิโลกรัม


วิธีซื้อทุเรียน ดูยังไงให้ได้ผลสุกพร้อมกิน
ปกติแล้วจะนิยมกินทุเรียนเมื่อสุกและแก่ได้ที่ หรือบางคนก็จะชอบแบบกรอบนอกนุ่มใน ซึ่งมีจุดสังเกตต่าง ๆ ก่อนซื้อทุเรียน ดังนี้

รอยต่อระหว่างขั้วและก้าน หรือปลิง : จะมีสีน้ำตาลเข้ม บวมหรือปริเห็นรอยแตกชัด ตอนจับจะรู้สึกสากมือ และเมื่อตัดออกจะมีน้ำใส ๆ ไหลออกมา ชิมดูจะมีรสหวาน  
หนาม : เลือกที่ปลายหนามแห้ง สีน้ำตาลเข้ม ร่องหนามห่างกว้างขึ้น มีลักษณะเหมือนสปริงเมื่อบีบเข้าหากัน
เปลือก : มีสีเข้มขึ้นเมื่อเทียบกับทุเรียนสายพันธุ์เดียวกัน ผิวแห้งแต่มีความมัน และมองเห็นรอยแยกสีน้ำตาลบนร่องพูชัดเจน
เคาะแล้วฟังเสียง : ใช้ไม้ที่ปลายเป็นยางเคาะที่ผล ถ้าเสียงที่ได้เป็นเสียงโปร่ง กลวง ก็แสดงว่าสุกพร้อมกินได้ แต่ถ้าเคาะแล้วเสียงแน่นทึบ หมายถึงเนื้อยังแข็งและอ่อนอยู่  
กลิ่น : ถ้ามีกลิ่นหอมเตะจมูก ไม่เหม็นสาบ ไม่เหม็นเขียว ก็แสดงว่าสุกพร้อมกินแล้ว

-------

ทุเรียนพันธุ์ไหนอร่อยสุด 15 สายพันธุ์ทุเรียน แต่ละพันธุ์ต่างกันยังไง 
 
    ทุเรียนพันธุ์ไหนอร่อยสุด มาหาคำตอบกันว่า 15 สายพันธุ์ทุเรียน แต่ละพันธุ์ ต่างกันยังไง ก่อนไปอร่อยอิ่มจุกๆ กันกับ บุฟเฟ่ต์ทุเรียน ตลอดหน้าผลไม้นี้ทั้งใน กรุงเทพ ระยอง และจันทบุรี มาดูกันก่อนว่า นอกจากทุเรียนยอดนิยมอย่าง หมอนทอง ชะนี และก้านยาวแล้ว ยังมีทุเรียนพันธุ์ไหนอีกบ้างที่น่าหามาลอง ทุเรียนแต่ละชนิดนั้นแตกต่างกันยังไง ทั้งในเรื่องของรสชาติ กลิ่น สี และรสสัมผัส ตามมาดูกันเลยค่ะ

 ทุเรียนแต่ละพันธุ์ ต่างกันยังไง พันธุ์ไหนอร่อยที่สุด
 
1. ทุเรียนหมอนทอง

ลักษณะเนื้อทุเรียนหมอนทอง : เนื้อสีเหลืองนวล เนื้อนุ่มแห้ง มีเส้นใยปานกลาง เม็ดลีบ มีเนื้อเยอะ
รสชาติ : หวานมากกว่ามันเมื่อแก่จัด
กลิ่น : กลิ่นหอมเย็นอ่อนๆ ในเนื้อ
ระยะอร่อย : ห่าม-สุกพอดี
 
2. ทุเรียนชะนี


ลักษณะเนื้อทุเรียนชะนี : เนื้อสีเหลืองเข้ม เนื้อเนียนละเอียด เส้นใบปานกลาง และมีความเหนียวมาก
รสชาติ : รสชาติหวานจัด แถมมันมาก
กลิ่น : กลิ่นหอมแรง
ระยะอร่อย : สุกในปลิง ถ้าสุกจัดเนื้อจะเละและกลิ่นแรงมาก
 
3. ทุเรียนก้านยาว
 
ลักษณะเนื้อทุเรียนก้านยาว : สีเนื้อเหลืองสวย เนื้อเนียนและละเอียดมาก ครีมมี่มากๆ
รสชาติ : รสชาติหวานมัน กลมกล่อมมาก
กลิ่น : กลิ่นก็หอมละมุน
ระยะอร่อย : สุกพอดี
 
4. ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ
 
ลักษณะเนื้อทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ : สีเนื้อเหลืองเข้ม เนื้อเหนียวเนียนละเอียด อร่อยมากๆ
รสชาติ : รสชาติหวานมัน กลมกล่อม
กลิ่น : กลิ่นหอมอ่อนๆ กลิ่นไม่แรง
ระยะอร่อย : ห่าม-สุกพอดี
 
5. ทุเรียนป่าละอู
 
ลักษณะเนื้อทุเรียนป่าละอู : สีเนื้อเหลืองอ่อน เนื้อหนา แห้งเนียนละเอียด
รสชาติ : รสชาติมันๆ ไม่หวานจัด
กลิ่น : กลิ่นหอมละมุน ไม่รุนแรง
ระยะอร่อย : สุกพอดี
 
6. ทุเรียนพวงมณี
 
ลักษณะเนื้อทุเรียนพวงมณี : สีเนื้อออกส้มๆ เนื้อละเอียดคล้ายครีม นุ่มละมุน ชวนหลงใหล
รสชาติ : รสชาติหวานมันเข้มข้น หวานจัด
กลิ่น : กลิ่นหอมหวานชวนทาน
ระยะอร่อย : สุกพอดี
 
7. ทุเรียนหลงลับแล
 
ลักษณะเนื้อทุเรียนหลงลับแล : เนื้อสีเหลืองอ่อนๆ เนื้อแห้ง เนียนละเอียดๆ มีเส้นใยเล็กน้อย นุ่มละมุน
รสชาติ : รสชาติหวานจัด มันมากๆ นมๆ
กลิ่น : กลิ่นหอมมาก หอมดอกไม้ ยิ่งสุกยิ่งหอม
ระยะอร่อย : สุกพอดี
 
8. ทุเรียนนกหยิบ
 
ลักษณะเนื้อทุเรียนนกหยิบ : สีเนื้อเหลืองสดสวยมาก เนื้อแห้งละเอียด มีเส้นใยนุ่มๆ พอประมาณ
รสชาติ : รสชาติหวานมันกำลังดี แนวมันๆ หวานพอประมาณ
กลิ่น : กลิ่นหอมปานกลาง ละมุน ชวนชิมมาก
ระยะอร่อย : สุกพอดี
 
9. ทุเรียนกระดุม
 
ลักษณะเนื้อทุเรียนกระดุม : สีเนื้อเหลืองเข้มเลย เนื้อค่อนข้างบาง เม็ดใหญ่ เนื้อเนียนละเอียด เหนียวนิดๆ เส้นใยน้อยมาก เมื่อสุกจัดเนื้อจะเละ
รสชาติ : รสชาติหวาน ไม่ค่อยมัน
กลิ่น : กลิ่นหอมละมุน
ระยะอร่อย : สุกพอดี
 
10. ทุเรียนกบชายน้ำ
 
ลักษณะเนื้อทุเรียนกบชายน้ำ : สีเนื้อเหลืองสด เนื้อแห้ง เนียน และละเอียด แทบไม่มีเส้นใยเลย เม็ดลีบเนื้อเยอะ
รสชาติ : รสชาติหวานมันกลมกล่อม
กลิ่น : กลิ่นหอมอ่อนๆ ละมุนชวนชิม
ระยะอร่อย : สุกพอดี
 
11. ทุเรียนนวลทองจันทร์
 
ลักษณะเนื้อทุเรียนนวลทองจันทร์ : สีเนื้อเหลืองจำปา เนื้อเนียนละเอียด เป็นครีม เม็ดลีบ
รสชาติ : รสชาติหวานมันเข้มข้น ค่อนไปทางหวาน
กลิ่น : กลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ฉุน
ระยะอร่อย : สุกพอดี
 
12. ทุเรียนเม็ดในยายปราง
 
ลักษณะเนื้อทุเรียนเม็ดในยายปราง : สีเนื้อเหลืองสด เนื้อละเอียด เหนียว เส้นใยน้อย เม็ดลีบ เนื้อเยอะ
รสชาติ : รสชาติหวานมันพอดี
กลิ่น : กลิ่นหอมอ่อนๆ
ระยะอร่อย : สุกพอดี
 
13. ทุเรียนจันทบุรี 1
(ลูกผสมระหว่างพันธุ์ชะนี+หมอนทอง)


ลักษณะเนื้อทุเรียนจันทบุรี 1 : สีเนื้อเหลืองสด เนื้อละเอียด ไม่มีเส้นใย เม็ดลีบ เนื้อเยอะ เมื่อสุกจัดเนื้อไม่เละ
รสชาติ : รสชาติหวานมันมาก
กลิ่น : กลิ่นหอมอ่อนมาก
ระยะอร่อย : สุกพอดี
 
14. ทุเรียนจันทบุรี 2
(ลูกผสมระหว่างพันธุ์ชะนี+พวงมณี)

 ลักษณะเนื้อทุเรียนจันทบุรี 2 : สีเนื้อเหลืองเข้ม เนื้อเหนียว ละเอียด
รสชาติ : รสชาติหวานมัน
กลิ่น : กลิ่นหอมอ่อนๆ
ระยะอร่อย : สุกพอดี
 
15. ทุเรียนจันทบุรี 3
(ลูกผสมระหว่างพันธุ์ก้านยาว+ชะนี)

 ลักษณะเนื้อทุเรียนจันทบุรี 3 : สีเนื้อเหลืองเข้ม เนื้อละเอียด เหนียว เมื่อสุกจัดเนื้อจะค่อนข้างแห้ง ไม่เละ
รสชาติ : รสชาติหวานมัน
กลิ่น : กลิ่นหอม
ระยะอร่อย : สุกพอดี
 
 

     สายพันธุ์ทุเรียนในบ้านเราจริงๆ แล้วยังมีอีกหลายสายพันธุ์มาก แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การเปลี่ยนแปลงของพื้นที่เพาะปลุก และความนิยมในการเลือกซื้อของผู้บริโภค จึงทำให้บางสายพันธุ์อาจจะหาทานได้ยากมากๆ แล้ว ในปัจจุบัน


บทความที่เกี่ยวข้อง
เกร็ดความรู้เรื่องข้าว (ข้าวไทยยอดนิยม)
ข้าวไทยยอดนิยมมีหลากหลาย แต่ที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักมากที่สุดคือ ข้าวหอมมะลิ (โดยเฉพาะ 105 และทุ่งกุลาร้องไห้) ที่หอมนุ่ม, ข้าวไรซ์เบอร์รี่ (เพื่อสุขภาพ), ข้าวเหนียว (เช่น เขี้ยวงู, ลืมผัว), และข้าวพื้นถิ่นคุณค่าสูงอย่าง ข้าวสังข์หยดพัทลุง หรือ ข้าวเสาไห้. ข้าวเจ้าที่นิยม: ข้าวหอมมะลิ 105 (Jasmine Rice): ข้าวไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก หอมกลิ่นคล้ายใบเตย นุ่ม อร่อย. ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลา: แหล่งปลูกคุณภาพดีจากภาคอีสาน เมล็ดเรียวสวย หอมนุ่ม. ข้าวเสาไห้ (เจ๊กเชย): ข้าวเจ้าคุณภาพสูง หอม นุ่ม หุงขึ้นหม้อ เหมาะสำหรับทานทั่วไป. ข้าวไรซ์เบอร์รี่: ข้าวสีม่วงเข้ม อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ มีคุณค่าทางโภชนาการสูง. ข้าวหอมนิล/สีนิล: ข้าวสีดำ มีประโยชน์ต่อสุขภาพ. ข้าวกข.103 (หอมชัยนาท 72): พันธุ์ใหม่ที่กำลังนิยม ให้กลิ่นหอมและเนื้อนุ่ม. ข้าวเหนียวที่นิยม: ข้าวเหนียวเขี้ยวงู: ข้าวเหนียวคุณภาพดี เมล็ดสวย ใช้ทำข้าวเหนียวมูนอร่อย. ข้าวเหนียวดำ (ลืมผัว): มีคุณค่าทางอาหารสูง เป็นที่นิยมในภาคเหนือและอีสาน. ข้าวเหนียวกข.26 (เชียงราย 72): พันธุ์เหนียวที่พัฒนาขึ้นมาให้ผลผลิตดี. ข้าวพื้นถิ่น/พิเศษ: ข้าวสังข์หยดพัทลุง: ข้าวกล้องสีแดงอมชมพู มีคุณค่าทางอาหารสูง. ข้าวมันปู: ข้าวที่มีเยื่อหุ้มเมล็ดสีม่วงเข้ม มีประโยชน์. โดยรวมแล้ว ข้าวหอมมะลิและข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นสองสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน ทั้งในตลาดภายในประเทศและส่งออก
27 ธ.ค. 2025
เกร็ดความรู้กาแฟ ประโยชน์ของกาแฟ และประวัติของเครื่องดื่มกาแฟ
กาแฟมีสรรพคุณช่วยให้ตื่นตัว เพิ่มสมาธิ < กระตุ้นการเผาผลาญ และอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ลดความเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2, โรคหัวใจ, โรคตับ, โรคพาร์กินสัน และอัลไซเมอร์ นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องลดน้ำหนักได้ (โดยเฉพาะกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล) และช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น ลดความเครียดได้ด้วย. สรรพคุณหลัก: กระตุ้นร่างกายและสมอง: คาเฟอีนช่วยยับยั้งสารที่ทำให้ง่วง และเพิ่มสารสื่อประสาทที่ทำให้ตื่นตัว มีสมาธิ และอารมณ์ดีขึ้น. ต้านอนุมูลอิสระ: มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย. ช่วยเผาผลาญและลดน้ำหนัก: เร่งการเผาผลาญพลังงานและไขมัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกาย. ประโยชน์ต่อสุขภาพ (จากการวิจัย): ลดความเสี่ยงโรค: เบาหวานชนิดที่ 2, โรคหัวใจ, โรคตับ, โรคพาร์กินสัน, อัลไซเมอร์, มะเร็งบางชนิด, นิ่วในถุงน้ำดี. สุขภาพตับ: ลดความเสี่ยงตับแข็ง และไวรัสตับอักเสบซี. ลดความเครียด: ช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น ลดความเสี่ยงภาวะซึมเศร้า. เคล็ดลับการดื่มเพื่อสุขภาพ: เลือกกาแฟดำ: หากต้องการลดน้ำหนัก ควรดื่มกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลหรือนม. ดื่มก่อนออกกำลังกาย: ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญ. ดื่มในปริมาณเหมาะสม: การดื่มกาแฟดำ 2-4 แก้วต่อวัน อาจให้ประโยชน์สูงสุด โดยไม่ก่อให้เกิดผลเสีย
22 ธ.ค. 2025
เครื่องปรุงรส เครื่องเทศ ผลิตภัณฑ์คู่ครัว ของขวัญจากประเทศไทย
เครื่องปรุงไทยส่วนใหญ่ เอกลักษณ์รสชาติที่ซับซ้อน จากการใช้สมุนไพรและเครื่องเทศธรรมชาติ (เช่น พริก, กระเทียม, ข่า, ตะไคร้), การผสมผสานรสชาติ เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด อย่างกลมกล่อม : เครื่องปรุงไทยจัดเป็นวัฒนธรรมของไทยที่ได้สื่อออกสู่ระดับโลก (Soft Power) ข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับเครื่องปรุงไทย เอกลักษณ์รสชาติ: อาหารไทยโดดเด่นด้วยการใช้เครื่องเทศ สมุนไพรหลากหลาย สร้างรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ต้มยำ, แกงเผ็ด. วัตถุดิบหลัก: เครื่องปรุงสำคัญ ได้แก่ น้ำปลา, กะปิ, น้ำตาล, เกลือ, พริก, กระเทียม, ข่า, ตะไคร้, ใบมะกรูด, พริกไทย อาหารไทย ความสลับซับซ้อนของรสชาติ นำไปสู่ความเป็นเอกลักษณ์และความประณีต และ ศิลปะไทยที่ได้แสดงบทบาทยังวงการอาหารของโลก และ เป็นการสื่อถึง Soft Power ของไทย
18 ธ.ค. 2025
This website uses cookies for best user experience, to find out more you can go to our นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy