เกร็ดความรู้เรื่องข้าว (ข้าวไทยยอดนิยม)
อัพเดทล่าสุด: 27 ธ.ค. 2025
115 ผู้เข้าชม

ข้าวยอดนิยมทานอร่อยมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
ข้าวหอมมะลิ
ข้าวหอมมะลิ เป็นสายพันธุ์ข้าวที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย จัดเป็นข้าวนาปี ปลูกได้เพียงปีละ 1 ครั้ง ลักษณะข้าวเปลือกเรียวยาว เมื่อสีเป็นข้าวสารจะได้ข้าวเมล็ดเรียว ยาว ขาวใสเป็นเงา มีท้องไข่น้อย มีกลิ่นหอมคล้ายใบเตย ลักษณะที่สำคัญของข้าวหอมมะลิคือ เมื่อหุงหรือนึ่งสุกแล้วเมล็ดข้าวสุกจะอ่อนนุ่มมากกว่าข้าวเจ้าทั่วไป แต่ร่วนน้อยกว่าและมีกลิ่นหอม เป็นข้าวเจ้าที่มีคุณภาพเมล็ดดีมาก เมล็ดข้าวสารใส แข็งแรง คุณภาพการขัดสีดี ข้าวหอมมะลิเป็นพันธุ์ข้าวที่นิยมบริโภคอย่างแพร่หลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเป็นพันธุ์ข้าวที่สร้างชื่อเสียงให้ข้าวไทยเป็นที่รู้จักทั่วโลก
2. ข้าวขาว
ข้าวที่มีการนำไปกระเทาะเปลือกออกแล้วนำไปขัดสีของเยื่อหุ้มข้าวออกไป ทำให้มีสีขาวสวย เป็นข้าวที่มีราคาประหยัดที่สุดในท้องตลาด ให้พลังงานได้ดี ทานง่าย อิ่มท้อง เหมาะสำหรับร้านอาหารในการทำเมนูอาหารตามสั่ง ข้าวกล่อง หุงเป็นข้าวสวยทานก็คู่กับข้าว หรือจะเน้นทำเป็นเมนูข้าวผัดก็ตอบโจทย์ เพราะเม็ดข้าวร่วน ไม่แฉะ เละง่าย
3. ข้าวกล้อง
ข้าวกล้อง คือ ข้าวที่สีเอาเปลือก (แกลบ) ออกไป ไม่ผ่านกระบวนการขัดสี ทำให้ยังมีจมูกข้าวและเยื่อหุ้มเมล็ดข้าว ซึ่งเป็นส่วนที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยมีโปรตีนประมาณ 6-12% มีวิตามินบี 1 บี 2 บี 6 วิตามินอี เกลือแร่ รวมทั้งมีเส้นใยอาหารมาก ข้าวกล้องจึงเป็นอาหารที่เหมาะต่อสุขภาพ นอกจากทานสุกแล้ว ยังสามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพิ่มรสชาติ คุณค่าและมูลค่าได้อีกด้วย
4. ข้าวกล้องงอก
ข้าวกล้องงอก คือ ข้าวกล้องที่นำมาแช่น้ำแล้วทำให้เกิดการงอก ทำให้มีสารกาบา (GABA: Gamma Aminobutyric Acid) เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่สำคัญต่อระบบประสาทส่วนกลาง ช่วยรักษาสมดุลในสมอง ในข้าวกล้องงอกจะมี สารกาบามากกว่าข้าวกล้องปกติถึง 15 เท่า นอกจากสารกาบาแล้ว ในข้าวกล้องงอกยังมีสารอาหารอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น กรดไฟติก วิตามินซี วิตามินอี ใยอาหาร เป็นต้น ข้าวกล้องงอกที่หุงสุก มีเนื้อสัมผัสอ่อนนุ่ม ทำให้ทานได้ง่ายกว่า ข้าวกล้องธรรมดา
5. ข้าวไรซ์เบอร์รี่
ข้าวไรซ์เบอร์รี่มีลักษณะเรียวยาว ผิวมันวาว เป็นข้าวเจ้าสีม่วงเข้มคล้ายกับลูกเบอร์รี่ที่มีสีม่วงเข้มเมื่อสุก เป็นข้าวเจ้าพันธุ์ใหม่ที่ได้รับการคัดเลือก และพัฒนาพันธุ์ขึ้นโดยการผสมข้ามพันธุ์ระหว่าง ข้าวเจ้าหอมนิล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (พันธุ์พ่อ) กับ ข้าวขาวดอกมะลิ 105 จากสถาบันวิจัยข้าว (พันธุ์แม่) โดยเริ่มผสมพันธุ์เมื่อ ปี พ.ศ. 2545 ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน
6. ข้าวเหนียว
กินคู่กับอาหารคาวก็ดี นำมาทำขนมก็อร่อย คุณค่าทางโภชนาการสูง ช่วยป้องกันหลอดเลือดหัวใจตีบ และปัญหาวุ้นในตาเสื่อม
ข้าวเหนียว เป็นที่นิยมบริโภคอย่างกว้างขวางในประเทศ และเป็นอาหารหลักของประชากรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ นอกจากการบริโภคโดยตรงแล้ว ยังมีการนำข้าวเหนียวมาเป็นวัตถุดิบ ในการผลิตสุราพื้นเมือง การผลิตแป้งข้าวเหนียว เพื่ออุตสาหกรรมอาหารและขนมขบเคี้ยว “ข้าวเหนียว” มีหลากหลายสายพันธ์ุในประเทศไทย เช่น ข้าวเหนียวเขี้ยวงู ข้าวเหนียวสันป่าตอง ข้าวเล้าแตก (ให้ผลผลิตมาก) ข้าวแลกหลาน ข้าวเหนียวแดงใหญ่ ข้าวก่ำล้านนา ข้าวไร่ลืมผัว
7. ข้าวญี่ปุ่น
ข้าวญี่ปุ่นเป็นข้าวเมล็ดสั้น จัดอยู่ในกลุ่มจาโปนิกา (Japonica rice) มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเขตอบอุ่น ทำการปลูกและทานกันมากในประเทศจีน ไต้หวัน เกาหลี และญี่ปุ่น ลักษณะของข้าวญี่ปุ่นโดยทั่วไป ได้แก่ ต้นเตี้ย แตกกอมาก เมล็ดสั้นป้อม หุงแล้วมีความเหนียวมากโดยให้ผลผลิตสูงเฉลี่ยประมาณ 750-850 กิโลกรัมต่อไร่ และสามารถให้ผลผลิตได้สูงสุดถึง 1,350 กิโลกรัมต่อไร่ ข้าวญี่ปุ่นเป็นข้าวที่ไม่ไวต่อแสงปลูกได้ทั้งฤดูนาปีและฤดูนาปรัง สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมและภูมิอากาศในประเทศไทยได้ดีให้ผลผลิตสูงและคุณภาพดี
“ข้าว” จัดว่ามีประโยชน์และมีคุณค่าต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์อย่างมากตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านเราไม่ว่าใครๆ ก็จะทานข้าวเป็นอาหารหลัก เพราะเป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานและความอบอุ่น นอกจากนี้ ยังใช้ทำเป็นขนมหวานต่างๆ ทำปุ๋ย ของใช้ ของเล่นต่างๆ เครื่องประดับ และใช้เป็นยารักษาโรคได้อีกด้วย..
ข้าวอะไรที่เป็นที่นิยมสูงสุด
ข้าวไทยที่นิยมมากที่สุดคือ ข้าวหอมมะลิ (โดยเฉพาะพันธุ์ 105) เพราะมีกลิ่นหอมคล้ายใบเตย นุ่ม และรสชาติดี ได้รับรางวัลข้าวที่ดีที่สุดในโลกหลายครั้ง รองลงมาคือ ข้าวขาว ทั่วไปที่คนไทยนิยมบริโภคในชีวิตประจำวัน และยังมีข้าวเพื่อสุขภาพอย่าง ข้าวไรซ์เบอร์รี่, ข้าวกล้อง, และข้าวสังข์หยด ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ประเภทข้าวไทยที่นิยม:
ข้าวหอมมะลิ (Jasmine Rice):ลักษณะ: เมล็ดเรียวยาว สีขาวนวล หอมคล้ายใบเตย, นุ่ม, และอร่อย.
พันธุ์เด่น: ข้าวหอมมะลิ 105 (ขาวดอกมะลิ 105), กข15, และหอมคลองหลวง 72.
ความนิยม: เป็นที่ยอมรับระดับโลก ได้รับรางวัล "ข้าวที่ดีที่สุดในโลก".
ข้าวขาว (White Rice):ลักษณะ: เป็นข้าวที่ขัดสี มีหลายพันธุ์ ปลูกทั่วไปในภาคกลาง.
ความนิยม: บริโภคกันอย่างแพร่หลายในครัวเรือนไทย เป็นข้าวหลัก.
ข้าวเหนียว (Sticky Rice):ลักษณะ: มีความเหนียวหนึบ (เช่น เขี้ยวงู, กข 26).
ความนิยม: นิยมในภาคอีสานและภาคเหนือ ทานคู่กับอาหารอีสานหรือขนมหวาน.
ข้าวเพื่อสุขภาพ (Health Rice):ข้าวไรซ์เบอร์รี่: สีม่วงเข้ม มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง.
ข้าวมันปู: ข้าวกล้องเยื่อหุ้มสีแดง มีสารอาหารสูง.
ข้าวสังข์หยด: มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง นุ่มและมีกลิ่นเฉพาะตัว.
โดยสรุป: หากพูดถึงความนิยมสูงสุดในตลาดโลกและในครัวเรือนไทยที่เน้นความหอมอร่อย ข้าวหอมมะลิ คืออันดับหนึ่ง แต่ข้าวอื่นๆ เช่น ข้าวขาวธรรมดา และข้าวเพื่อสุขภาพก็เป็นที่นิยมอย่างมากเช่นกัน
ข้าวไทยกับทิศทางการส่งออก
การส่งออกข้าวไทยยังคงแข็งแกร่งแม้เผชิญการแข่งขันสูง โดยปี 2567 ส่งออกได้เกือบ 10 ล้านตัน และคาดการณ์ปี 2568 จะทำได้ตามเป้าหมายที่ 7.5 ล้านตัน โดยเน้นตลาดหลักอย่างจีน, แอฟริกาใต้, สหรัฐฯ และตะวันออกกลาง และเจาะตลาดใหม่ พร้อมดันข้าวคุณภาพ เช่น ข้าวหอมมะลิ ข้าวนึ่ง และข้าวกล้อง แม้จะมีแรงกดดันจากอินเดียที่กลับมาส่งออก และคู่แข่งอย่างเวียดนาม แต่ไทยยังคงรักษาความได้เปรียบด้านคุณภาพและตลาดเฉพาะกลุ่มได้.
ภาพรวมการส่งออก (ข้อมูลล่าสุดปี 2567-2568)
ปี 2567: ส่งออกได้สูงเกือบ 10 ล้านตัน สูงกว่าเป้าหมาย. 8 เดือนแรกปี 2568: ส่งออกได้กว่า 5.04 ล้านตัน. เป้าหมายปี 2568: ตั้งเป้าไว้ที่ 7.5 ล้านตัน.
ตลาดส่งออกหลัก
อินโดนีเซีย, อิรัก, สหรัฐฯ, แอฟริกาใต้, จีน. : ตลาดใหม่: ตะวันออกกลาง, ยุโรป, และการเจาะตลาดจีนเพิ่มขึ้น.
ชนิดข้าวที่ส่งออก
แข็งแกร่ง: ข้าวหอมมะลิ, ข้าวนึ่ง (Parboiled), ข้าวกล้อง, ข้าวเหนียว.
เผชิญแข่งสูง: ข้าวขาว และข้าวหอมไทย (เพราะมีราคาสูงกว่าคู่แข่งอย่างเวียดนาม).
ความท้าทายและปัจจัยกดดัน
การแข่งขัน: เวียดนามและอินเดียยังคงเป็นคู่แข่งสำคัญ.
อินเดีย: กลับมาส่งออกข้าวขาวอีกครั้ง กดดันราคาโลก.
อุปทานโลก: ปริมาณข้าวโลกเพิ่มขึ้น ทำให้มีอุปทานส่วนเกิน.
ต้นทุน: ค่าเงินบาทผันผวน และต้นทุนการผลิตขนส่ง.
กลยุทธ์ของไทย
รักษาตลาดเดิม เพิ่มตลาดใหม่ และเน้นการขายแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (G-to-G).
เน้นขายข้าวคุณภาพสูง (พรีเมียม) เช่น ข้าวหอมมะลิ และข้าวนึ่ง.
พัฒนาพันธุ์ข้าวให้นุ่ม (มีอมิโลสต่ำ) เพื่อแข่งกับเวียดนาม.
------------
หากสนใจข้าวไทยเพื่อการบริโภคหรือส่งออกกรุณาติดต่อ โซโอเคเทรดดิ้ง เพื่อขอใบเสนอราคาได้เลย
ข้าวหอมมะลิ
ข้าวหอมมะลิ เป็นสายพันธุ์ข้าวที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย จัดเป็นข้าวนาปี ปลูกได้เพียงปีละ 1 ครั้ง ลักษณะข้าวเปลือกเรียวยาว เมื่อสีเป็นข้าวสารจะได้ข้าวเมล็ดเรียว ยาว ขาวใสเป็นเงา มีท้องไข่น้อย มีกลิ่นหอมคล้ายใบเตย ลักษณะที่สำคัญของข้าวหอมมะลิคือ เมื่อหุงหรือนึ่งสุกแล้วเมล็ดข้าวสุกจะอ่อนนุ่มมากกว่าข้าวเจ้าทั่วไป แต่ร่วนน้อยกว่าและมีกลิ่นหอม เป็นข้าวเจ้าที่มีคุณภาพเมล็ดดีมาก เมล็ดข้าวสารใส แข็งแรง คุณภาพการขัดสีดี ข้าวหอมมะลิเป็นพันธุ์ข้าวที่นิยมบริโภคอย่างแพร่หลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเป็นพันธุ์ข้าวที่สร้างชื่อเสียงให้ข้าวไทยเป็นที่รู้จักทั่วโลก
2. ข้าวขาว
ข้าวที่มีการนำไปกระเทาะเปลือกออกแล้วนำไปขัดสีของเยื่อหุ้มข้าวออกไป ทำให้มีสีขาวสวย เป็นข้าวที่มีราคาประหยัดที่สุดในท้องตลาด ให้พลังงานได้ดี ทานง่าย อิ่มท้อง เหมาะสำหรับร้านอาหารในการทำเมนูอาหารตามสั่ง ข้าวกล่อง หุงเป็นข้าวสวยทานก็คู่กับข้าว หรือจะเน้นทำเป็นเมนูข้าวผัดก็ตอบโจทย์ เพราะเม็ดข้าวร่วน ไม่แฉะ เละง่าย
3. ข้าวกล้อง
ข้าวกล้อง คือ ข้าวที่สีเอาเปลือก (แกลบ) ออกไป ไม่ผ่านกระบวนการขัดสี ทำให้ยังมีจมูกข้าวและเยื่อหุ้มเมล็ดข้าว ซึ่งเป็นส่วนที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยมีโปรตีนประมาณ 6-12% มีวิตามินบี 1 บี 2 บี 6 วิตามินอี เกลือแร่ รวมทั้งมีเส้นใยอาหารมาก ข้าวกล้องจึงเป็นอาหารที่เหมาะต่อสุขภาพ นอกจากทานสุกแล้ว ยังสามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพิ่มรสชาติ คุณค่าและมูลค่าได้อีกด้วย
4. ข้าวกล้องงอก
ข้าวกล้องงอก คือ ข้าวกล้องที่นำมาแช่น้ำแล้วทำให้เกิดการงอก ทำให้มีสารกาบา (GABA: Gamma Aminobutyric Acid) เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่สำคัญต่อระบบประสาทส่วนกลาง ช่วยรักษาสมดุลในสมอง ในข้าวกล้องงอกจะมี สารกาบามากกว่าข้าวกล้องปกติถึง 15 เท่า นอกจากสารกาบาแล้ว ในข้าวกล้องงอกยังมีสารอาหารอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น กรดไฟติก วิตามินซี วิตามินอี ใยอาหาร เป็นต้น ข้าวกล้องงอกที่หุงสุก มีเนื้อสัมผัสอ่อนนุ่ม ทำให้ทานได้ง่ายกว่า ข้าวกล้องธรรมดา
5. ข้าวไรซ์เบอร์รี่
ข้าวไรซ์เบอร์รี่มีลักษณะเรียวยาว ผิวมันวาว เป็นข้าวเจ้าสีม่วงเข้มคล้ายกับลูกเบอร์รี่ที่มีสีม่วงเข้มเมื่อสุก เป็นข้าวเจ้าพันธุ์ใหม่ที่ได้รับการคัดเลือก และพัฒนาพันธุ์ขึ้นโดยการผสมข้ามพันธุ์ระหว่าง ข้าวเจ้าหอมนิล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (พันธุ์พ่อ) กับ ข้าวขาวดอกมะลิ 105 จากสถาบันวิจัยข้าว (พันธุ์แม่) โดยเริ่มผสมพันธุ์เมื่อ ปี พ.ศ. 2545 ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน
6. ข้าวเหนียว
กินคู่กับอาหารคาวก็ดี นำมาทำขนมก็อร่อย คุณค่าทางโภชนาการสูง ช่วยป้องกันหลอดเลือดหัวใจตีบ และปัญหาวุ้นในตาเสื่อม
ข้าวเหนียว เป็นที่นิยมบริโภคอย่างกว้างขวางในประเทศ และเป็นอาหารหลักของประชากรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ นอกจากการบริโภคโดยตรงแล้ว ยังมีการนำข้าวเหนียวมาเป็นวัตถุดิบ ในการผลิตสุราพื้นเมือง การผลิตแป้งข้าวเหนียว เพื่ออุตสาหกรรมอาหารและขนมขบเคี้ยว “ข้าวเหนียว” มีหลากหลายสายพันธ์ุในประเทศไทย เช่น ข้าวเหนียวเขี้ยวงู ข้าวเหนียวสันป่าตอง ข้าวเล้าแตก (ให้ผลผลิตมาก) ข้าวแลกหลาน ข้าวเหนียวแดงใหญ่ ข้าวก่ำล้านนา ข้าวไร่ลืมผัว
7. ข้าวญี่ปุ่น
ข้าวญี่ปุ่นเป็นข้าวเมล็ดสั้น จัดอยู่ในกลุ่มจาโปนิกา (Japonica rice) มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเขตอบอุ่น ทำการปลูกและทานกันมากในประเทศจีน ไต้หวัน เกาหลี และญี่ปุ่น ลักษณะของข้าวญี่ปุ่นโดยทั่วไป ได้แก่ ต้นเตี้ย แตกกอมาก เมล็ดสั้นป้อม หุงแล้วมีความเหนียวมากโดยให้ผลผลิตสูงเฉลี่ยประมาณ 750-850 กิโลกรัมต่อไร่ และสามารถให้ผลผลิตได้สูงสุดถึง 1,350 กิโลกรัมต่อไร่ ข้าวญี่ปุ่นเป็นข้าวที่ไม่ไวต่อแสงปลูกได้ทั้งฤดูนาปีและฤดูนาปรัง สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมและภูมิอากาศในประเทศไทยได้ดีให้ผลผลิตสูงและคุณภาพดี
“ข้าว” จัดว่ามีประโยชน์และมีคุณค่าต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์อย่างมากตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านเราไม่ว่าใครๆ ก็จะทานข้าวเป็นอาหารหลัก เพราะเป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานและความอบอุ่น นอกจากนี้ ยังใช้ทำเป็นขนมหวานต่างๆ ทำปุ๋ย ของใช้ ของเล่นต่างๆ เครื่องประดับ และใช้เป็นยารักษาโรคได้อีกด้วย..
ข้าวอะไรที่เป็นที่นิยมสูงสุด
ข้าวไทยที่นิยมมากที่สุดคือ ข้าวหอมมะลิ (โดยเฉพาะพันธุ์ 105) เพราะมีกลิ่นหอมคล้ายใบเตย นุ่ม และรสชาติดี ได้รับรางวัลข้าวที่ดีที่สุดในโลกหลายครั้ง รองลงมาคือ ข้าวขาว ทั่วไปที่คนไทยนิยมบริโภคในชีวิตประจำวัน และยังมีข้าวเพื่อสุขภาพอย่าง ข้าวไรซ์เบอร์รี่, ข้าวกล้อง, และข้าวสังข์หยด ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ประเภทข้าวไทยที่นิยม:
ข้าวหอมมะลิ (Jasmine Rice):ลักษณะ: เมล็ดเรียวยาว สีขาวนวล หอมคล้ายใบเตย, นุ่ม, และอร่อย.
พันธุ์เด่น: ข้าวหอมมะลิ 105 (ขาวดอกมะลิ 105), กข15, และหอมคลองหลวง 72.
ความนิยม: เป็นที่ยอมรับระดับโลก ได้รับรางวัล "ข้าวที่ดีที่สุดในโลก".
ข้าวขาว (White Rice):ลักษณะ: เป็นข้าวที่ขัดสี มีหลายพันธุ์ ปลูกทั่วไปในภาคกลาง.
ความนิยม: บริโภคกันอย่างแพร่หลายในครัวเรือนไทย เป็นข้าวหลัก.
ข้าวเหนียว (Sticky Rice):ลักษณะ: มีความเหนียวหนึบ (เช่น เขี้ยวงู, กข 26).
ความนิยม: นิยมในภาคอีสานและภาคเหนือ ทานคู่กับอาหารอีสานหรือขนมหวาน.
ข้าวเพื่อสุขภาพ (Health Rice):ข้าวไรซ์เบอร์รี่: สีม่วงเข้ม มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง.
ข้าวมันปู: ข้าวกล้องเยื่อหุ้มสีแดง มีสารอาหารสูง.
ข้าวสังข์หยด: มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง นุ่มและมีกลิ่นเฉพาะตัว.
โดยสรุป: หากพูดถึงความนิยมสูงสุดในตลาดโลกและในครัวเรือนไทยที่เน้นความหอมอร่อย ข้าวหอมมะลิ คืออันดับหนึ่ง แต่ข้าวอื่นๆ เช่น ข้าวขาวธรรมดา และข้าวเพื่อสุขภาพก็เป็นที่นิยมอย่างมากเช่นกัน
ข้าวไทยกับทิศทางการส่งออก
การส่งออกข้าวไทยยังคงแข็งแกร่งแม้เผชิญการแข่งขันสูง โดยปี 2567 ส่งออกได้เกือบ 10 ล้านตัน และคาดการณ์ปี 2568 จะทำได้ตามเป้าหมายที่ 7.5 ล้านตัน โดยเน้นตลาดหลักอย่างจีน, แอฟริกาใต้, สหรัฐฯ และตะวันออกกลาง และเจาะตลาดใหม่ พร้อมดันข้าวคุณภาพ เช่น ข้าวหอมมะลิ ข้าวนึ่ง และข้าวกล้อง แม้จะมีแรงกดดันจากอินเดียที่กลับมาส่งออก และคู่แข่งอย่างเวียดนาม แต่ไทยยังคงรักษาความได้เปรียบด้านคุณภาพและตลาดเฉพาะกลุ่มได้.
ภาพรวมการส่งออก (ข้อมูลล่าสุดปี 2567-2568)
ปี 2567: ส่งออกได้สูงเกือบ 10 ล้านตัน สูงกว่าเป้าหมาย. 8 เดือนแรกปี 2568: ส่งออกได้กว่า 5.04 ล้านตัน. เป้าหมายปี 2568: ตั้งเป้าไว้ที่ 7.5 ล้านตัน.
ตลาดส่งออกหลัก
อินโดนีเซีย, อิรัก, สหรัฐฯ, แอฟริกาใต้, จีน. : ตลาดใหม่: ตะวันออกกลาง, ยุโรป, และการเจาะตลาดจีนเพิ่มขึ้น.
ชนิดข้าวที่ส่งออก
แข็งแกร่ง: ข้าวหอมมะลิ, ข้าวนึ่ง (Parboiled), ข้าวกล้อง, ข้าวเหนียว.
เผชิญแข่งสูง: ข้าวขาว และข้าวหอมไทย (เพราะมีราคาสูงกว่าคู่แข่งอย่างเวียดนาม).
ความท้าทายและปัจจัยกดดัน
การแข่งขัน: เวียดนามและอินเดียยังคงเป็นคู่แข่งสำคัญ.
อินเดีย: กลับมาส่งออกข้าวขาวอีกครั้ง กดดันราคาโลก.
อุปทานโลก: ปริมาณข้าวโลกเพิ่มขึ้น ทำให้มีอุปทานส่วนเกิน.
ต้นทุน: ค่าเงินบาทผันผวน และต้นทุนการผลิตขนส่ง.
กลยุทธ์ของไทย
รักษาตลาดเดิม เพิ่มตลาดใหม่ และเน้นการขายแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (G-to-G).
เน้นขายข้าวคุณภาพสูง (พรีเมียม) เช่น ข้าวหอมมะลิ และข้าวนึ่ง.
พัฒนาพันธุ์ข้าวให้นุ่ม (มีอมิโลสต่ำ) เพื่อแข่งกับเวียดนาม.
------------
หากสนใจข้าวไทยเพื่อการบริโภคหรือส่งออกกรุณาติดต่อ โซโอเคเทรดดิ้ง เพื่อขอใบเสนอราคาได้เลย
บทความที่เกี่ยวข้อง
ทุเรียน" ผลไม้ส่งออกเด่นของไทย
หากพูดถึงหนึ่งในผลไม้ที่เป็นที่นิยมของไทย ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน ล้วนแล้วแต่นึกถึงและอยากที่จะตามมาทานถึงที่นั้น ก็คือ ทุเรียน นั่นเอง
ทุเรียนไทย ที่มีทั้งรสชาติอันเข้มข้นและกลิ่นหอมแรงซึ่งเป็นที่โปรดปรานของผู้คนจำนวนมากทั่วโลก และถือเป็นหนึ่งในผลไม้ส่งออกที่สำคัญของประเทศ จนกลายเป็นที่จดจำและเป็นหนึ่งในภาพลักษณ์ของประเทศ ที่เมื่อเอ่ยถึงทุเรียน คนทั่วโลกก็จะนึกถึง ประเทศไทยสำหรับ "สายพันธุ์หลักของทุเรียนไทย" ได้แก่
1. หมอนทอง
ผลทุเรียนพันธุ์หมอนทองมีขนาดใหญ่ ทรงผลค่อนข้างยาวปลายแหลม เนื้อทุเรียนหมอนทองมีสีเหลืองทอง อ่อนนุ่มละเอียด หวานมัน และมีเนื้อเยอะ เป็นที่รู้จักกันดีว่ามีกลิ่นหอมอ่อนๆ และไม่รุนแรงจนเกินไป เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชินกับกลิ่นทุเรียนที่ฉุนแรง
2. ก้านยาว
ผลทุเรียนพันธุ์ก้านยาวมีขนาดปานกลาง ทรงผลกลม ทำให้เห็นพูไม่ชัดเจน ทุเรียนก้านยาวเป็นพันธุ์ทุเรียนที่นิยมกันมากพันธุ์หนึ่ง มีกลิ่นไม่ฉุนมาก เนื้อละเอียด มีเส้นใยน้อย รสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย ออกผลผลิตได้อย่างสม่ำเสมอ
3. ชะนี
ผลทุเรียนพันธุ์ชะนีมีขนาดปานกลางถึงใหญ่ ทรงผลมีรูปทรงหวด คือ กลางผลป่องหัวเรียว ร่องพูค่อนข้างลึกเห็นได้ชัด ทุเรียนชะนีเป็นทุเรียนที่มีรสชาติเข้มข้น มีเนื้อที่แน่นและหนา เต็มเม็ด เนื้อสีเหลืองอมส้ม หวานและมัน กลิ่นค่อนข้างแรงซึ่งสะท้อนถึงความเข้มข้นของรสชาติ จึงทำให้ทุเรียนชะนีถูกนิยมนำไปแปรรูปเป็นอาหารหรือเป็นส่วนผสมของขนมหวานต่าง ๆ ที่ต้องการกลิ่นทุเรียนที่โดดเด่น
โดยในประเทศไทย มีแหล่งเพาะปลูกทุเรียนที่สำคัญอยู่ที่จังหวัดจันทบุรี ระยอง ชุมพร และตราด
.
28 ธ.ค. 2025
กาแฟมีสรรพคุณช่วยให้ตื่นตัว เพิ่มสมาธิ < กระตุ้นการเผาผลาญ และอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ลดความเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2, โรคหัวใจ, โรคตับ, โรคพาร์กินสัน และอัลไซเมอร์ นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องลดน้ำหนักได้ (โดยเฉพาะกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล) และช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น ลดความเครียดได้ด้วย.
สรรพคุณหลัก:
กระตุ้นร่างกายและสมอง: คาเฟอีนช่วยยับยั้งสารที่ทำให้ง่วง และเพิ่มสารสื่อประสาทที่ทำให้ตื่นตัว มีสมาธิ และอารมณ์ดีขึ้น.
ต้านอนุมูลอิสระ: มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย.
ช่วยเผาผลาญและลดน้ำหนัก: เร่งการเผาผลาญพลังงานและไขมัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกาย.
ประโยชน์ต่อสุขภาพ (จากการวิจัย):
ลดความเสี่ยงโรค: เบาหวานชนิดที่ 2, โรคหัวใจ, โรคตับ, โรคพาร์กินสัน, อัลไซเมอร์, มะเร็งบางชนิด, นิ่วในถุงน้ำดี.
สุขภาพตับ: ลดความเสี่ยงตับแข็ง และไวรัสตับอักเสบซี.
ลดความเครียด: ช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น ลดความเสี่ยงภาวะซึมเศร้า.
เคล็ดลับการดื่มเพื่อสุขภาพ:
เลือกกาแฟดำ: หากต้องการลดน้ำหนัก ควรดื่มกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลหรือนม.
ดื่มก่อนออกกำลังกาย: ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญ.
ดื่มในปริมาณเหมาะสม: การดื่มกาแฟดำ 2-4 แก้วต่อวัน อาจให้ประโยชน์สูงสุด โดยไม่ก่อให้เกิดผลเสีย
22 ธ.ค. 2025
เครื่องปรุงไทยส่วนใหญ่ เอกลักษณ์รสชาติที่ซับซ้อน จากการใช้สมุนไพรและเครื่องเทศธรรมชาติ (เช่น พริก, กระเทียม, ข่า, ตะไคร้), การผสมผสานรสชาติ เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด อย่างกลมกล่อม : เครื่องปรุงไทยจัดเป็นวัฒนธรรมของไทยที่ได้สื่อออกสู่ระดับโลก (Soft Power)
ข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับเครื่องปรุงไทย
เอกลักษณ์รสชาติ: อาหารไทยโดดเด่นด้วยการใช้เครื่องเทศ สมุนไพรหลากหลาย สร้างรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ต้มยำ, แกงเผ็ด.
วัตถุดิบหลัก: เครื่องปรุงสำคัญ ได้แก่ น้ำปลา, กะปิ, น้ำตาล, เกลือ, พริก, กระเทียม, ข่า, ตะไคร้, ใบมะกรูด, พริกไทย อาหารไทย ความสลับซับซ้อนของรสชาติ นำไปสู่ความเป็นเอกลักษณ์และความประณีต และ ศิลปะไทยที่ได้แสดงบทบาทยังวงการอาหารของโลก และ เป็นการสื่อถึง Soft Power ของไทย
18 ธ.ค. 2025


