แชร์

เกร็ดความรู้ COPPER CATHODE และการใช้งานในภาคอุตสาหกรรม

อัพเดทล่าสุด: 28 พ.ย. 2025
39 ผู้เข้าชม

แคโทดทองแดงคืออะไร?

คอปเปอร์แคโทดเป็นทองแดงชนิดหนึ่งที่มีความบริสุทธิ์ 99.95% การถลุงและการกลั่นด้วยไฟฟ้าเป็นสองกระบวนการที่ใช้ในการกำจัดสิ่งเจือปนออกจากแร่ทองแดง ทองแดงที่เกือบบริสุทธิ์ซึ่งส่งผลให้เป็นตัวนำที่ดีเยี่ยมและมักใช้ในการเดินสายไฟฟ้า

ทองแดงไม่มีอยู่ในรูปแบบบริสุทธิ์เมื่ออยู่ในพื้นดิน แต่เป็นส่วนประกอบของสารประกอบ ส่วนผสมของทองแดง เหล็ก และกำมะถันเป็นแร่ทองแดงชนิดหนึ่งที่พบมากที่สุด Chalcopyrite เป็นชื่อที่ตั้งให้กับแร่นี้ หลังการขุด แร่จะถูกทำให้ร้อนในเตาเผาที่อุณหภูมิ 1,100 องศา C (2,012 องศาฟาเรนไฮต์) ที่อุณหภูมินี้ ออกซิเจนจะทำปฏิกิริยากับเหล็กในแร่ ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ 3 ชนิด ได้แก่ เหล็กออกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และคอปเปอร์ซัลไฟต์

หลังจากกำจัดเหล็กส่วนใหญ่ออกจากแร่ทองแดงแล้ว คอปเปอร์ซัลไฟต์หรือที่เรียกว่าคอปเปอร์แมตต์ก็จะได้รับออกซิเจนในระดับสูง เนื่องจากทองแดงด้านยังคงหลอมเหลว ออกซิเจนที่ใส่เข้าไปในเตาเผาจึงสามารถจับตัวกับซัลเฟอร์ที่เหลืออยู่ ทำให้เกิดซัลเฟอร์ไดออกไซด์มากขึ้นและทองแดงบริสุทธิ์ 99%

ขณะนี้ทองแดงที่ผ่านการกลั่นแล้วสามารถนำมาใช้กับสินค้าที่ไม่ต้องการการนำไฟฟ้าในระดับสูงได้ แต่สามารถกลั่นเพิ่มเติมให้เป็นแคโทดทองแดงได้ผ่านกระบวนการอิเล็กโทรรีไฟน์นิ่ง สิ่งเจือปนที่เหลืออยู่ในทองแดงจำนวนมากเป็นแร่ธาตุอื่นๆ เช่น นิกเกิล เงิน และทอง ในระหว่างการกลั่นด้วยไฟฟ้า แร่ธาตุรองเหล่านี้จะถูกรวบรวม

ทองแดงบริสุทธิ์ 99% ได้รับการกลั่นด้วยไฟฟ้าในสารละลายกรดซัลฟูริกและคอปเปอร์ซัลเฟต แผ่นทองแดงที่ไม่บริสุทธิ์จะถูกจัดเรียงติดกับวัสดุที่ทองแดงบริสุทธิ์จะสะสมอยู่ กระแสไฟฟ้าเข้าสู่ถังผ่านแผ่นทองแดงไม่บริสุทธิ์ที่เรียกว่าแอโนด และออกผ่านทองแดงบริสุทธิ์ที่ก่อตัวขึ้นซึ่งเรียกว่าแคโทดทองแดง สิ่งเจือปนจากทองแดงจะจมลงที่ด้านล่างของถังหรือเพิ่มขึ้นสู่พื้นผิวเนื่องจากไอออนทองแดงบริสุทธิ์เดินทางผ่านสารละลายไปยังแคโทด

แคโทดทองแดงมักใช้ทำลวดทองแดงเนื่องจากเป็นตัวนำไฟฟ้าและความร้อนที่ดีเยี่ยม ความยืดหยุ่นของทองแดงทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับสายไฟฟ้าและเสียงที่บางและยืดหยุ่น นอกจากลวดแล้ว ทองแดงแคโทดยังใช้ทำเค้กทองแดง ซึ่งมีความหนาตั้งแต่ฟอยล์บางไปจนถึงแผ่นหนา แท่งทองแดงที่ผ่านการกลั่นด้วยไฟฟ้ายังสามารถนำมาใช้สร้างโลหะผสม เช่น บรอนซ์ ได้อีกด้วย

-------

การใช้งาน COPPER CATHODE

ทองแดงแคโทด (Copper Cathode) คือทองแดงความบริสุทธิ์สูงที่ใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตผลิตภัณฑ์ทองแดงหลากหลายชนิด การใช้งานหลักๆ ได้แก่ การเดินสายไฟฟ้า โดยทำเป็นสายไฟในอาคารและสายส่งไฟฟ้าแรงสูง, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น แผงวงจรพิมพ์และหม้อแปลง, ระบบปรับอากาศและทำความเย็น (ท่อ), และการนำไปแปรรูปเป็น ท่อน, แผ่น, หรือเส้น สำหรับใช้ในงานอุตสาหกรรมและชิ้นส่วนเครื่องจักรกล. 
 
การใช้งานหลัก
การเดินสายไฟฟ้า: เป็นการใช้งานที่สำคัญที่สุด ทำเป็นสายไฟทุกประเภท ตั้งแต่สายไฟในบ้านไปจนถึงสายส่งไฟฟ้ากำลังสูง.
อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์: ใช้ในการผลิตแผงวงจรพิมพ์ (PCB) และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ เช่น หม้อแปลง และสวิตช์บอร์ด.
ระบบหลอดและท่อ: เนื่องจากนำความร้อนได้ดี ใช้ผลิตท่อทองแดงสำหรับระบบปรับอากาศ, ระบบทำความเย็น และระบบท่อน้ำร้อน.
การแปรรูปเป็นรูปแบบต่างๆ: ทองแดงแคโทดสามารถนำไปแปรรูปเป็นท่อน, แท่ง, เส้น, แผ่น, ฟอยล์ หรือหล่อเป็นชิ้นส่วนต่างๆ เช่น ชิ้นส่วนเครื่องจักรกล, อุปกรณ์ข้อต่อ, ใบพัดเรือ, หรือวาล์ว.
บัสบาร์ (Busbar): ใช้ในงานระบบไฟฟ้าแรงดันสูงและแผงวงจรไฟฟ้า

------

แหล่งแร่ COPPER (CATHODE)

แหล่งแร่ทองแดงที่สำคัญในโลกกระจายตัวอยู่ในหลายภูมิภาค โดยแหล่งที่ใหญ่ที่สุดอยู่ตามแนวเทือกเขาแอนดีสใน ชิลีและเปรู ซึ่งรวมกันเป็นแหล่งแร่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังมีแหล่งแร่สำคัญใน สหรัฐอเมริกา (บริเวณเทือกเขาร็อกกี), แอฟริกา (คองโก, แซมเบีย, แซร์), และ แคนาดา 
 
แหล่งแร่ทองแดงที่สำคัญ
ทวีปอเมริกาใต้:ชิลี: เป็นแหล่งแร่ทองแดงที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเฉพาะบริเวณเทือกเขาแอนดีส
เปรู: ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอนดีสเช่นกัน และเป็นหนึ่งในแหล่งแร่ทองแดงที่สำคัญ
ทวีปอเมริกาเหนือ:สหรัฐอเมริกา: ตั้งอยู่ในบริเวณเทือกเขาร็อกกี
แคนาดา: มีแหล่งแร่ทองแดงในพื้นที่ทางตะวันตก
ทวีปแอฟริกา:คองโก: เป็นแหล่งแร่ที่สำคัญในทวีป
แซมเบียและแซร์: เป็นอีกหนึ่งแหล่งแร่ที่สำคัญ
แหล่งแร่อื่นๆ:มีแหล่งแร่ทองแดงในยุโรป, เม็กซิโก, และออสเตรเลีย 
 

การนำแร่ทองแดงมาใช้ (การแปรรูปและการถลุงแร่)


แหล่งของแคโทดทองแดง (copper cathode) มาจากการถลุงและทำให้บริสุทธิ์ผ่านกระบวนการทางไฟฟ้าในห้องปฏิบัติการหรือโรงงาน แหล่งหลักคือแร่ทองแดงที่ผ่านกระบวนการทางเคมีและไฟฟ้า ซึ่งมีการละลายทองแดงจากขั้วบวกที่เป็นทองแดงหยาบมาตกผลึกเป็นแผ่นแคโทดทองแดงที่บริสุทธิ์ยิ่งขึ้นที่ขั้วลบ 
กระบวนการถลุง: ทองแดงบริสุทธิ์ในรูปแบบของแผ่นแคโทดได้มาจากการถลุงทองแดงหยาบ (anode) ในระบบอิเล็กโทรไลต์ และการละลายของทองแดงจากขั้วบวกจะถูกนำไปตกผลึกใหม่ที่ขั้วลบ
ขั้วบวก: ทองแดงหยาบจะถูกใช้เป็นขั้วบวกในกระบวนการนี้
อิเล็กโทรไลต์: ใช้สารละลายอิเล็กโทรไลต์ เช่น ทองแดงซัลเฟต (copper sulfate) ในการสร้างกระแสไฟฟ้า
แผ่นแคโทด: เมื่อกระบวนการเสร็จสิ้น จะได้แผ่นทองแดงบริสุทธิ์ซึ่งเป็นแผ่นแคโทดทองแดง

การใช้งานทองแดงอื่นๆ

ารนำทองแดง (Copper) ไปใช้ประโยชน์มีหลายด้าน เช่น เป็นสารกำจัดเชื้อราและศัตรูพืชในทางการเกษตร เสริมธาตุอาหารแก่พืช ป้องกันตะไคร่น้ำ และยังใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ด้วย 
 
การใช้งานทองแดง
เกษตรกรรม: ใช้เป็นสารกำจัดเชื้อราเพื่อป้องกันโรคราน้ำค้าง โรคใบจุด และโรคใบไหม้ในพืช เช่น องุ่น มะเขือเทศ และพืชสวนอื่นๆ
เสริมธาตุอาหาร: ช่วยเสริมธาตุทองแดงในดิน เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช และช่วยปรับสมดุลแร่ธาตุในดิน
ควบคุมศัตรูพืช: ป้องกันตะไคร่น้ำในนาข้าวและบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งช่วยควบคุมแมลงศัตรูพืชและหอยทากที่อาจทำลายพืชผลได้
อุตสาหกรรม: ใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่หลากหลาย 

การใช้งานทองแดงในอนาคต

การใช้งานทองแดงในอนาคตจะเน้นไปที่เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ต้องใช้คุณสมบัติพิเศษของทองแดง เช่น การนำไฟฟ้าและความร้อนได้ดีเยี่ยม เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV), พลังงานหมุนเวียน, และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประสิทธิภาพสูง รวมถึงการนำไปใช้ในการประยุกต์ใช้ใหม่ๆ ในด้านวัสดุศาสตร์และการแพทย์. 
 
การใช้งานในอนาคต
ยานยนต์ไฟฟ้า (EV): ทองแดงเป็นส่วนสำคัญของมอเตอร์ไฟฟ้า, แบตเตอรี่, และระบบสายไฟของรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งการใช้งานในอุตสาหกรรมนี้จะยิ่งเพิ่มขึ้นอย่างมาก.
พลังงานหมุนเวียน: ทองแดงถูกนำมาใช้ในการผลิตแผงโซลาร์เซลล์และกังหันลมเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่กำลังเติบโต.
อิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยี: การพัฒนาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีขนาดเล็กลงและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น จะยังคงต้องใช้ทองแดงในส่วนประกอบสำคัญอย่างแผงวงจร (PCB), หม้อแปลงไฟฟ้า, และชิ้นส่วนอื่นๆ.
วัสดุศาสตร์: การวิจัยและพัฒนาโลหะผสมใหม่ๆ ที่ใช้ทองแดงเป็นส่วนผสมหลัก เพื่อให้ได้วัสดุที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวมากขึ้น เช่น ความแข็งแรง ความทนทาน หรือการนำไฟฟ้าที่ดีขึ้น.
การแพทย์: ทองแดงมีคุณสมบัติในการช่วยเสริมสุขภาพร่างกายในหลายด้าน เช่น การสร้างกระดูกและเซลล์ประสาท. การวิจัยอาจนำไปสู่การประยุกต์ใช้ทองแดงในอุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือวัสดุทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง. 

------------------


บทความที่เกี่ยวข้อง
ทิศทางการใช้ อลูมิเนียมในอนาคต (ปี2026) , ทิศทางราคาอลูมิเนียม และ สถานะการณ์ Carbon Footprint
ทิศทางในอนาคตของอลูมิเนียมไทยมุ่งเน้น ความยั่งยืน (Sustainability) และ เทคโนโลยีขั้นสูง (Advanced Technology) โดยจะเน้น อลูมิเนียมคาร์บอนต่ำ และ อลูมิเนียมรีไซเคิล เพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และการก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมพัฒนา การเคลือบผิวใหม่ๆ และระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เช่น โครงการ Aluminium Loop เพื่อลดต้นทุน เพิ่มมูลค่า และรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก. แนวโน้มสำคัญ: การเติบโตในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV): รถ EV ต้องการใช้อลูมิเนียมเพิ่มขึ้นมากเพื่อลดน้ำหนัก ช่วยประหยัดพลังงานและเพิ่มระยะทางวิ่ง. ความต้องการอลูมิเนียมคาร์บอนต่ำ (Low-Carbon Aluminium): ตอบสนองมาตรการสิ่งแวดล้อมทั่วโลก (เช่น EU CBAM) โดยเฉพาะการใช้อลูมิเนียมรีไซเคิลสูง ซึ่งลดการปล่อยคาร์บอนได้มาก. เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy): โครงการอย่าง "Aluminium Loop" ขับเคลื่อนการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์อลูมิเนียมครบวงจร เพื่อลดขยะและสร้างมูลค่า. นวัตกรรมการเคลือบผิว (Coating Innovations): การเคลือบผิวแบบใหม่ๆ เพื่อเพิ่มฟังก์ชัน เช่น ป้องกันแบคทีเรีย (Anti-microbial) ทำความสะอาดง่าย (Easy-to-clean) สร้างผิวสัมผัสใหม่. การก่อสร้างแบบสำเร็จรูปและโมดูลาร์ (Modular Construction): ใช้อลูมิเนียมมากขึ้นในการผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูปนอกสถานที่ เพื่อความแม่นยำและลดของเสีย. การบูรณาการพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy): ใช้อลูมิเนียมในโครงสร้างรองรับแผงโซลาร์เซลล์ และระบบพลังงานสะอาดอื่นๆ. ความท้าทาย: ต้นทุนพลังงาน & ห่วงโซ่อุปทาน: ความผันผวนของราคาพลังงานและความท้าทายในห่วงโซ่อุปทาน. การแข่งขัน: ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิล ทำให้ไทยต้องพัฒนาต่อเนื่องเพื่อรักษาผู้นำ. โอกาส: ไทยมีศักยภาพด้านแรงงานฝีมือ และอุตสาหกรรมต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำที่ครบวงจร. การปรับตัวสู่การผลิตคาร์บอนต่ำสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะการเป็นผู้นำด้านอลูมิเนียมรีไซเคิล. สรุป: อลูมิเนียมไทยจะก้าวสู่ยุคใหม่ที่เน้น "เขียว" (Green) และ "ฉลาด" (Smart) โดยการรีไซเคิลและเทคโนโลยีจะเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างการเติบโตและความยั่งยืน.
16 ธ.ค. 2025
REES Rare Earth Element, แร่หายาก คือ อะไรใช้งาน อะไร เกร็ดความรู้ รวมรวมโดย SO OK TRADING
แร่หายาก (Rare Earth Elements: REEs) คือกลุ่มธาตุโลหะ 17 ชนิดที่มีความสำคัญต่อเทคโนโลยีสมัยใหม่ (เช่น รถไฟฟ้า กังหันลม สมาร์ทโฟน) แม้ชื่อจะบอกว่า "หายาก" แต่จริงๆ แล้วมีอยู่ในโลก แต่กระจายตัวไม่เข้มข้นและแยกสกัดยาก ทำให้มีต้นทุนสูง และมักพบรวมกับแร่ธาตุอื่น ๆ เช่น แร่ดีบุก ทังสเตน และพบได้ในหลายประเทศ โดยเฉพาะจีนที่ครองตลาดใหญ่. แร่หายากคืออะไร? กลุ่มธาตุ 17 ชนิด: ประกอบด้วยธาตุในกลุ่มแลนทาไนด์ (Lanthanides) 15 ธาตุ + สแกนเดียม (Sc) และ อิตเทรียม (Y). ธาตุสำคัญ: ซีเรียม (Ce), นีโอไดเมียม (Nd), ยูโรเปียม (Eu), เทอร์เบียม (Tb). ทำไมถึงสำคัญ? ส่วนประกอบเทคโนโลยี: ใช้ทำแม่เหล็กกำลังสูง (รถยนต์ไฟฟ้า), สารเรืองแสง (LED), ตัวเร่งปฏิกิริยา (ลดมลพิษ), ไฟเบอร์ออปติก, เครื่อง MRI. พบได้ที่ไหน? กระจายทั่วโลก: แต่แหล่งที่พบมากและแปรรูปได้ง่ายมีไม่กี่แห่ง (เช่น จีน, เวียดนาม, บราซิล). ในไทย: พบกระจายทางภาคตะวันตก (เชียงราย, แม่ฮ่องสอน, กาญจนบุรี) มักปนกับแร่ดีบุกและทังสเตน. ความท้าทายในการทำเหมือง: ต้นทุนสูง และกระบวนการสกัดซับซ้อน ต้องใช้เทคโนโลยีสูง. ก่อให้เกิดมลพิษทางสิ่งแวดล้อมหากจัดการไม่ดี. ---------------
14 ธ.ค. 2025
เกร็ดความรู้ ซิลิคอน by SO OK
ซิลิคอน (Silicon) คือธาตุสารกึ่งตัวนำสำคัญที่พบมากบนเปลือกโลก (ในรูปซิลิกา) ใช้ทำชิปอิเล็กทรอนิกส์, แผงโซลาร์เซลล์, แก้ว, เซรามิก, และผสมโลหะ; ส่วน ซิลิโคน (Silicone) คือพอลิเมอร์ที่ใช้ทำกาวอุดรอยรั่ว, สารหล่อลื่น, เครื่องสำอาง, ยา, และอุปกรณ์การแพทย์ คุณสมบัติเด่นคือทนความร้อน, ทนสารเคมี, เป็นฉนวนไฟฟ้า, ยืดหยุ่น, และกันน้ำ แม้ชื่อคล้ายกัน แต่คือคนละอย่าง. เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ ซิลิคอน (Silicon - Si) (ธาตุ) ธาตุสำคัญ: เป็นธาตุที่พบมากเป็นอันดับสองในเปลือกโลก (รองจากออกซิเจน) มักอยู่ในรูปซิลิก้า (Silicon Dioxide - SiO2) เช่น ทราย, ควอตซ์. หัวใจอิเล็กทรอนิกส์: ซิลิคอนบริสุทธิ์พิเศษ (Doped Silicon) เป็นหัวใจของวงจรรวม (IC) และเซมิคอนดักเตอร์ในคอมพิวเตอร์, สมาร์ทโฟน, และแผงโซลาร์เซลล์. โลหะผสม: ผสมกับอะลูมิเนียมเพื่อทำชิ้นส่วนรถยนต์ และผสมเหล็กเพื่อทำเหล็กกล้า. เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ ซิลิโคน (Silicone - พอลิเมอร์สังเคราะห์) คุณสมบัติมหัศจรรย์: ทนร้อน/เย็นจัด, กันน้ำ, ยืดหยุ่น, เป็นฉนวนไฟฟ้า, ทนสารเคมี, ไม่ติดไฟ. งานก่อสร้าง: กาวซิลิโคนใช้อุดรอยต่อกระจก, หน้าต่าง, หลังคา, ป้องกันน้ำรั่วซึม. เครื่องสำอาง: ทำให้ผลิตภัณฑ์เกลี่ยง่าย, เงางาม, ติดทนนาน (เช่น ลิปสติก), นุ่มลื่น (เช่น แชมพู). ทางการแพทย์: ใช้ในอุปกรณ์ทางการแพทย์, และซิลิโคนเจลสำหรับแผลเป็น. ระวังโรคปอด: การสูดดมฝุ่นผงซิลิก้า (ซิลิคอนไดออกไซด์) เป็นเวลานานในงานก่อสร้าง (เช่น โม่หิน) อาจทำให้เป็นโรคปอดฝุ่นหิน (Silicosis) ได้. ข้อแตกต่างที่สำคัญ ซิลิคอน (Silicon - Si): ธาตุโลหะ (สารกึ่งตัวนำ). ซิลิโคน (Silicone): สารประกอบพอลิเมอร์สังเคราะห์ที่มาจากซิลิคอน (มีออกซิเจนและคาร์บอน) มีความยืดหยุ่นและใช้งานหลากหลายกว่า.
11 ธ.ค. 2025
This website uses cookies for best user experience, to find out more you can go to our นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy