Share

SOOK ขอเสนอการข้อมูลการใช้งานสายไฟฟ้า ทองแดง และ อลูมิเนียม รวมทั้งสายไฟรถ EV เกร็ดความรู้

Last updated: 3 Dec 2025
124 Views

สายไฟ และ ความสัมพันธ์กับ กลุ่มแร่ NON FERROUS 

ALUMINUM

ายไฟอลูมิเนียม คือสายไฟที่มีตัวนำไฟฟ้าทำจาก อลูมิเนียม แทนที่จะเป็นทองแดง ซึ่งมีน้ำหนักเบาและราคาถูกกว่า ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องเดินสายระยะไกล เช่น การติดตั้งบนเสาไฟฟ้า แต่มีข้อเสียคือขนาดใหญ่กว่าทองแดงเมื่อเทียบกระแสไฟฟ้าเท่ากัน และอาจนำกระแสไฟฟ้าได้ไม่ดีเท่าทองแดง ทำให้ไม่เหมาะกับการใช้งานภายในอาคารที่ต้องการพื้นที่น้อยกว่า 
 
คุณสมบัติและลักษณะของสายไฟอลูมิเนียม
น้ำหนักเบา: มีน้ำหนักประมาณครึ่งหนึ่งของสายไฟทองแดง ทำให้ขนส่งและติดตั้งได้ง่าย โดยเฉพาะการแขวนลอยเป็นระยะทางไกล
ราคาถูก: มีราคาถูกกว่าทองแดง จึงช่วยประหยัดต้นทุนได้มากกว่า
ตัวนำ: มีค่าการนำไฟฟ้าประมาณ 61% ของทองแดง ดังนั้นหากต้องการกระแสไฟฟ้าเท่ากันจะต้องใช้สายไฟอลูมิเนียมที่มีหน้าตัดใหญ่กว่าทองแดง
การใช้งาน: นิยมใช้ในการเดินสายภายนอกอาคาร เช่น บนเสาไฟฟ้า (สายเปลือยหรือมีฉนวน) และในสายส่งไฟฟ้าแรงสูง
ฉนวน: ส่วนใหญ่หุ้มด้วยฉนวนพลาสติก เช่น PVC หรือ XLPE เพื่อความปลอดภัย 
 
ประเภทของสายไฟอลูมิเนียม
THW-A: สายแกนเดี่ยว หุ้มฉนวน PVC สำหรับงานแรงดันต่ำ เช่น การติดตั้งแบบเปิด หรือเดินลอยบนลูกถ้วย
SAC (Spaced Aerial Cable): สายแกนเดี่ยว อะลูมิเนียมอัดแน่น หุ้มฉนวนและเปลือก XLPE สำหรับระบบแรงดันปานกลาง ใช้แขวนลอยบนเสาไฟฟ้า
AAC (All Aluminum Stranded Conductor): สายอะลูมิเนียมตีเกลียวแบบเปลือย สำหรับแขวนบนเสาไฟฟ้าแรงสูง
ACSR (Aluminium Conductor Steel Reinforced): สายอะลูมิเนียมตีเกลียวเสริมแกนเหล็ก เหมาะสำหรับแขวนบนเสาส่งไฟฟ้าแรงสูง เนื่องจากรับแรงดึงได้สูงกว่า

COPPER

สายไฟที่ทำจากทองแดง คือ สายไฟที่มีตัวนำไฟฟ้าทำจากโลหะทองแดง ซึ่งมีคุณสมบัติการนำไฟฟ้าสูง ทนทาน และสามารถใช้งานได้หลากหลาย ทั้งแบบสายเดี่ยวและหลายแกน สายไฟทองแดงมีหลายชนิด เช่น THW (สายเดี่ยวหรือสายกลม), VAF (สายแบนสำหรับภายในอาคาร), และ VCT (สายทองแดงฝอยอ่อนตัว) ซึ่งแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกันไปตามความเหมาะสม 
 
ประเภทของสายไฟทองแดง
สายไฟ THW (60227 IEC01): เป็นสายไฟแกนเดี่ยว (หรือหลายเส้นตีเกลียวรวมกัน) หุ้มฉนวน PVC เหมาะสำหรับเดินสายภายในอาคาร, เดินลอยในอากาศ, หรือเดินในท่อ
สายไฟ VAF/VAF-G: เป็นสายแบน มีแกนเป็นทองแดง เหมาะสำหรับใช้เดินสายไฟทั่วไปภายในบ้านและอาคาร โดยเฉพาะการเดินเกาะผนังและในช่องเดินสาย
สายไฟ VCT/VCT-G: เป็นสายไฟที่มีแกนทองแดงเป็นเส้นฝอย ทำให้มีความอ่อนตัวสูงและทนต่อการสั่นสะเทือนได้ดี เหมาะสำหรับใช้เป็นสายไฟเข้าเครื่องจักร, งานเดินร้อยท่อฝังดิน หรือติดตั้งบนรางเคเบิล
สายไฟ NYY/NYY-G: เป็นสายไฟทองแดงที่มีความทนทานสูง หุ้มฉนวนและเปลือกหลายชั้น เหมาะสำหรับใช้งานภายนอกอาคาร เช่น วางบนรางเคเบิล, ร้อยท่อฝังดิน หรือฝังดินโดยตรง
สายไฟ CV: เป็นสายไฟทองแดงที่ใช้ฉนวนแบบ XLPE สามารถเดินสายได้หลากหลายรูปแบบ เช่น วางบนรางเคเบิล, ร้อยท่อฝังดิน หรือฝังดินโดยตรง 
 
ข้อดีของสายไฟทองแดง
การนำไฟฟ้าสูง: ช่วยลดความร้อนและสูญเสียพลังงานน้อยกว่าสายไฟคุณภาพต่ำ
ทนทานและอายุการใช้งานยาวนาน: ทนความร้อนได้สูงและเสื่อมสภาพช้า
ความปลอดภัยสูง: ลดความเสี่ยงไฟฟ้าลัดวงจร และฉนวนทนทานป้องกันไฟฟ้ารั่วได้ดี

NICKEL

สายไฟโดยทั่วไปไม่ได้ทำจากนิกเกิลทั้งหมด แต่ใช้เป็นวัสดุ เคลือบ เพื่อเพิ่มคุณสมบัติให้กับอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับสายไฟ เช่น เคเบิ้ลแกลน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ยึดและป้องกันสายไฟ โดยจะทำจาก ทองเหลืองชุบนิกเกิล ทำให้ทนทานต่อการกัดกร่อน นอกจากนี้ สายไฟบางประเภทอาจมีแกนกลางทำจากลวดนิกเกิล สำหรับการใช้งานเฉพาะทาง เช่น สายเคเบิลที่มีความร้อนสูง 
 
การใช้งานนิกเกิลในระบบสายไฟ
เคเบิ้ลแกลนทองเหลืองชุบนิกเกิล (Nickel-Plated Brass Cable Gland):เป็นอุปกรณ์สำหรับยึดและป้องกันสายไฟในระบบไฟฟ้า
มีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อน น้ำ และฝุ่นได้ดี เนื่องจากมีการชุบนิกเกิล
เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่ใช้งานหนัก เช่น กลางแจ้ง หรือในโรงงานอุตสาหกรรม
แกนลวดนิกเกิล (Nickel Wire Conductor):พบในสายไฟบางประเภท เช่น สายเคเบิลใยแก้วซิลิกาถักตัวนำนิกเกิล
เหมาะสำหรับงานที่ต้องการคุณสมบัติทนความร้อนสูง 
 
สรุป
ตัวนำสายไฟ ที่นิยมใช้ทั่วไปมักทำจากทองแดงหรืออลูมิเนียม
นิกเกิล ถูกนำมาใช้เป็นวัสดุเคลือบหรือวัสดุสำหรับส่วนประกอบเฉพาะของสายไฟ เพื่อเพิ่มความแข็งแรง ทนทาน และคุณสมบัติด้านการป้องกันจากสภาพแวดล้อม 

สายไฟที่ใช้ในรถ EV ทำมาจาก NON FERROUS ประเภทใด ?

สายไฟสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยทั่วไปทำจาก ทองแดง เป็นแกนหลัก เนื่องจากนำไฟฟ้าได้ดีและมีความยืดหยุ่น ส่วนเปลือกหุ้มมักทำจากวัสดุที่เป็นพลาสติก เช่น TPE (ThermoPlastic Elastomer) หรือ TPU (Thermoplastic Polyurethane) เพื่อป้องกันความเสียหายและเพิ่มความทนทาน 
 
ส่วนประกอบหลักของสายไฟ EV
แกนนำไฟฟ้า:ทองแดง: เป็นวัสดุที่นิยมที่สุด เพราะนำไฟฟ้าได้ดี ทนทาน และงอได้ง่ายกว่าโลหะอื่น
สายอ่อนมัลติคอร์: สายไฟ EV จะเป็นสายอ่อนแบบหลายแกน ซึ่งมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับการติดตั้งในรถ
เปลือกหุ้มฉนวน:TPE (ThermoPlastic Elastomer): เป็นวัสดุที่นุ่มและยืดหยุ่นกว่า ทำให้สายมีความยืดหยุ่นและทนทานต่อสภาพอากาศ
TPU (Thermoplastic Polyurethane): มีความทนทานและแข็งแรงกว่า
PVC (Polyvinyl Chloride): เป็นวัสดุที่คุ้มค่าและนิยมใช้กันมาก โดยมีความทนทานต่อความร้อน ความชื้น และสารเคมี
ส่วนประกอบอื่นๆ:วัสดุป้องกัน: เพื่อป้องกันสายจากสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น การขูดขีด แรงกระแทก แสงแดด และความชื้น

สายไฟที่ใช้ในสถานีชาร์จรถ EV ทำมาจาก NON FERROUS ประเภทใด ?

สายไฟสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ประกอบด้วย ตัวนำไฟฟ้า ที่ทำจาก ทองแดง ซึ่งเป็นตัวนำที่ดีที่สุด และ ฉนวน ที่หุ้มด้านนอก ซึ่งทำจากวัสดุที่ทนทาน เช่น PVC, TPU, หรือ TPE เพื่อป้องกันอันตรายและความเสียหาย 
 
ส่วนประกอบของสายไฟ
ตัวนำ: ทำจาก ทองแดง ซึ่งมีคุณสมบัติการนำไฟฟ้าได้ดีเยี่ยม
ฉนวนและเปลือกนอก: ทำจากวัสดุที่ทนทานและปลอดภัย เช่นTPE (ThermoPlastic Elastomer): มีความยืดหยุ่น ทนทาน และไม่แตกหักง่าย
TPU (Thermoplastic Polyurethane): แข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ และทนทานต่อสภาพอากาศได้ดี
PVC (Polyvinyl Chloride): เป็นวัสดุที่นิยมใช้โดยเฉพาะในรุ่นที่มีราคาประหยัด
ไนลอนถัก: ช่วยเพิ่มความทนทาน ป้องกันสายขาดหรือเสียหายง่าย

สายไฟใน SOLAR CELL , SOLAR FARM ทำจาก NON FERROUS ประเภทใด ?

สายไฟโซลาร์เซลล์ทำจาก ทองแดงเคลือบดีบุก เป็นตัวนำไฟฟ้า ส่วนฉนวนและเปลือกนอกทำจากวัสดุที่ทนทานต่อสภาพอากาศสูง เช่น XLPE (Cross-linked Polyethylene) หรือ XLPO (Cross-linked Polyolefin) เพื่อป้องกันความชื้น ความร้อน แสงแดด และการกัดกร่อน 
 
ส่วนประกอบหลักของสายไฟโซลาร์เซลล์
ตัวนำไฟฟ้า (Conductor): ทำจากทองแดงเส้นฝอยเคลือบดีบุกทองแดง: ทำหน้าที่เป็นตัวนำไฟฟ้าหลัก
การเคลือบดีบุก: ช่วยป้องกันการเกิดออกไซด์และการกัดกร่อน ทำให้มีความทนทานต่อความชื้นและรักษาประสิทธิภาพการนำไฟฟ้าได้ดี
ฉนวนและเปลือกนอก (Insulation and Sheath):ฉนวน: หุ้มตัวนำไฟฟ้าเพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร
เปลือกนอก: หุ้มฉนวนอีกชั้นเพื่อเพิ่มความทนทาน
วัสดุ: มักใช้สารที่ทนทานต่อสภาพอากาศ เช่น XLPE หรือ XLPO ซึ่งทนต่ออุณหภูมิสูงและแสงแดดได้ดี
การออกแบบ: ตัวสายจะประกอบด้วยเส้นลวดเล็ก ๆ จำนวนมาก เพื่อให้การไหลของไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ทำได้ดีที่ผิวของตัวนำ และลดการสูญเสียพลังงาน

สรุปทิศทางการใช้สายไฟในอนาคต EV , SOLAR CELL , SOLAR FARM , SMART CITY , DATA CENTER , GENERAL ELECTRICITY

ผลวิจัยคาดการณ์ว่าภายในปี 2593 ความต้องการผลิตไฟฟ้าทั่วโลกจะพุ่งสูงขึ้นถึง 3 เท่า และจากความต้องการใช้ไฟฟ้าที่พุ่งสูงขึ้นนี้ จะส่งผลต่อไปยังความต้องการสายไฟทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น ทะลุ 80 ล้านกิโลเมตร ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมโลก รวมถึงความท้าทายและโอกาสใหม่ ๆ ในภาคอุตสาหกรรมพลังงาน
สอดคล้องกับการที่ ความต้องการสายไฟทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากสายไฟและสายเคเบิลที่ผลิตจากวัสดุเกรดพรีเมียม มีคุณภาพสูงสุด อาทิ สายไฟฟ้าจากทองแดงบริสุทธิ์ 99.99% อะลูมิเนียมบริสุทธิ์ 99.7% ที่นำไฟฟ้าได้ดีเยี่ยม ทนทานต่อการกัดกร่อน ปลอดภัยต่อการใช้งาน สายทนไฟที่ผ่านการทดสอบคุณสมบัติทนความร้อนได้ดี
และร่วมพัฒนาระบบไฟฟ้าของประเทศ รองรับการขยายตัวของเมืองและกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ด้วยสายไฟฟ้าที่ผ่านการรับรองมาตรฐานคุณภาพชั้นนำระดับนานาชาติ ที่ผ่านการทดสอบคุณภาพสายไฟในห้องปฏิบัติการทดสอบทางไฟฟ้าอย่างละเอียดใน LAB และ หน้างาน ตลอดจน นวัตกรรม 
ใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ สายไฟเพื่ออนาคต และ สิ่งแวดล้อม ด้วยการอำนวยความสะดวกสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมด้านพลังงานหมุนเวียนที่เกี่ยวข้องกับสายไฟฟ้า เพื่อเชื่อมโยงประเทศไทยสู่เส้นทางอนาคตในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ โ

นอกจากนี้ ในระยะกลาง 3 ปี (ปี 67-69) ธุรกิจสายไฟฟ้าและสายเคเบิลในภูมิภาคอาเซียน ยังคงเติบโตด้วยการตอบโจทย์ความต้องการไฟฟ้าของทั้งไทยและโลก ด้วยการเติบโตอย่างยั่งยืน ยึดมั่นบริหารจัดการอย่างมีธรรมาภิบาล และ ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคม ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และผลิตสายเคเบิลที่จำเป็นในการรองรับความต้องการด้านไฟฟ้าของโลกยุค Net-Zero รวมถึงการพัฒนา นวัตกรรม และ ความรู้ใหม่ เพื่อไปมีการพัฒนาร่วมไปกับ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และ เครือข่ายทั้งสังคมไทย และ สังคมโลก

ความต้องการสายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากหลากหลายปัจจัย ทั้งนโยบายการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ จากทั่วประเทศ การเดินหน้าแผนพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าให้มีความทันสมัย การขยายตัวต่อเนื่องของธุรกิจที่ต้องการใช้ไฟฟ้ามหาศาล เช่น การดึงพลังงานมาใช้ในระบบดาต้า เซ็นเตอร์ ไปจนถึงการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานทดแทนของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ให้สอดคล้องกับทิศทาง Net Zero ซึ่งสายไฟฟ้าจะเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญ ที่จะช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้พลังงานหมุนเวียน และขับเคลื่อนอนาคตของเมืองต่อไปได้

*****

 


Related Content
Copper Usage and Trend of it use and price
Copper's excellent electrical/thermal conductivity, corrosion resistance, and antimicrobial properties make it vital for electrical wiring, plumbing (pipes, fittings), and electronics; it's also crucial in construction (roofing, gutters), transportation (EVs, radiators), machinery (motors, pumps), and has uses in medicine (hospital surfaces), art, and agriculture (fungicides). Its role is growing with the energy transition (solar, wind, EV infrastructure). Key Applications by Industry Electrical & Electronics: Wires, cables, circuit boards, motors, transformers, switches, connectors (essential for data centers, AI, EVs). Construction: Plumbing (pipes), roofing, gutters, downspouts, architectural details, door handles (due to antimicrobial nature). Transportation: Vehicle wiring, motors, radiators, braking systems, marine hardware (anti-fouling). Industrial Machinery: Heat exchangers, pumps, valves, bearings, industrial piping. Medical: Hospital surfaces, doorknobs, equipment (reduces bacteria). Consumer Goods: Cookware, jewelry, musical instruments, tools, decorative items. Agriculture: Copper sulfate used as fungicide and algaecide. Why Copper is Used High Conductivity: Best for transferring electricity and heat efficiently. Corrosion Resistance: Resists weathering and soil corrosion, ideal for water/plumbing. Malleability & Ductility: Easy to shape and draw into wires. Antimicrobial: Kills microbes, reducing infection spread. Durability & Recyclability: Long-lasting and highly sustainable
21 Dec 2025
Aluminum For Packaging How it used and it application
Aluminum is ideal for beverages due to its light weight, strength for carbonation, and excellent barrier properties (blocking light/air) to keep drinks fresh, plus it's infinitely recyclable, requiring much less energy to recycle than to produce new, making it highly sustainable for packaging sodas, beers, juices, and more. Its high recycling rate and ability to form a perfect, airtight seal make it a superior choice for preserving flavor, extending shelf life, and reducing environmental impact. Key Benefits of Aluminum for Beverages: Preserves Freshness: Blocks 100% of light and oxygen, preventing contamination and spoilage, protecting flavor. Sustainable & Recyclable: Infinitely recyclable in a true closed-loop system, using 95% less energy to recycle than to make new aluminum, with high recycled content. Lightweight & Efficient: Easier and cheaper to transport, store, and display, reducing carbon footprints. Durable & Strong: Withstands the pressure of carbonated drinks and resists breakage during transport, unlike glass. Versatile: Used for soda, beer, hard seltzers, energy drinks, juices, and more. Cooling: Has a natural cooling effect, keeping drinks cool with minimal energy. How it Works: Manufacturing: Bauxite ore is refined into pure aluminum, then rolled into thin sheets, stamped into discs, and drawn into the can shape. Lining: An epoxy lacquer or polymer lining is sprayed inside to prevent the aluminum from corroding and imparting a metallic taste. Sealing: A double-seam process creates an airtight, hygienic seal for the lid, locking in freshness. Recycling: Cans can be melted and reformed into new cans in as little as 60 days, making aluminum a circular packaging material.
20 Dec 2025
ทิศทางการใช้ อลูมิเนียมในอนาคต (ปี2026) , ทิศทางราคาอลูมิเนียม และ สถานะการณ์ Carbon Footprint
ทิศทางในอนาคตของอลูมิเนียมไทยมุ่งเน้น ความยั่งยืน (Sustainability) และ เทคโนโลยีขั้นสูง (Advanced Technology) โดยจะเน้น อลูมิเนียมคาร์บอนต่ำ และ อลูมิเนียมรีไซเคิล เพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และการก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมพัฒนา การเคลือบผิวใหม่ๆ และระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เช่น โครงการ Aluminium Loop เพื่อลดต้นทุน เพิ่มมูลค่า และรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก. แนวโน้มสำคัญ: การเติบโตในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV): รถ EV ต้องการใช้อลูมิเนียมเพิ่มขึ้นมากเพื่อลดน้ำหนัก ช่วยประหยัดพลังงานและเพิ่มระยะทางวิ่ง. ความต้องการอลูมิเนียมคาร์บอนต่ำ (Low-Carbon Aluminium): ตอบสนองมาตรการสิ่งแวดล้อมทั่วโลก (เช่น EU CBAM) โดยเฉพาะการใช้อลูมิเนียมรีไซเคิลสูง ซึ่งลดการปล่อยคาร์บอนได้มาก. เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy): โครงการอย่าง "Aluminium Loop" ขับเคลื่อนการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์อลูมิเนียมครบวงจร เพื่อลดขยะและสร้างมูลค่า. นวัตกรรมการเคลือบผิว (Coating Innovations): การเคลือบผิวแบบใหม่ๆ เพื่อเพิ่มฟังก์ชัน เช่น ป้องกันแบคทีเรีย (Anti-microbial) ทำความสะอาดง่าย (Easy-to-clean) สร้างผิวสัมผัสใหม่. การก่อสร้างแบบสำเร็จรูปและโมดูลาร์ (Modular Construction): ใช้อลูมิเนียมมากขึ้นในการผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูปนอกสถานที่ เพื่อความแม่นยำและลดของเสีย. การบูรณาการพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy): ใช้อลูมิเนียมในโครงสร้างรองรับแผงโซลาร์เซลล์ และระบบพลังงานสะอาดอื่นๆ. ความท้าทาย: ต้นทุนพลังงาน & ห่วงโซ่อุปทาน: ความผันผวนของราคาพลังงานและความท้าทายในห่วงโซ่อุปทาน. การแข่งขัน: ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิล ทำให้ไทยต้องพัฒนาต่อเนื่องเพื่อรักษาผู้นำ. โอกาส: ไทยมีศักยภาพด้านแรงงานฝีมือ และอุตสาหกรรมต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำที่ครบวงจร. การปรับตัวสู่การผลิตคาร์บอนต่ำสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะการเป็นผู้นำด้านอลูมิเนียมรีไซเคิล. สรุป: อลูมิเนียมไทยจะก้าวสู่ยุคใหม่ที่เน้น "เขียว" (Green) และ "ฉลาด" (Smart) โดยการรีไซเคิลและเทคโนโลยีจะเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างการเติบโตและความยั่งยืน.
16 Dec 2025
This website uses cookies for best user experience, to find out more you can go to our Privacy Policy and Cookies Policy
Compare product
0/4
Remove all
Compare
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy