Share

เกร็ดความรู้ ตะกั่วแท่ง by SO OK

Last updated: 8 Dec 2025
131 Views

SO OK TRADING ขอสรุปเกร็ดความรู้และการใช้งานตะกั่วแท่ง (Lead Ingot) ให้เพื่อนๆดังนี้

คุณสมบัติทางเคมี ตะกั่วแท่ง

ตะกั่วแท่ง (Pb) เป็นโลหะหนักที่มีคุณสมบัติทางเคมีเด่นคือ อ่อนตัวง่าย ต้านการกัดกร่อนได้ดี (โดยเฉพาะเมื่อมีชั้นออกไซด์ปกคลุม) และทำปฏิกิริยากับ กรดแก่ และ สารออกซิไดซ์ ได้รุนแรง เมื่อร้อนจัดจะเกิดควันพิษ (PbO) และเป็นโลหะหนัก เป็นพิษต่อร่างกายมนุษย์ แม้ว่าจะมีคุณสมบัติทางกายภาพที่น่าสนใจ เช่น จุดหลอมเหลวต่ำ (327.5°C) ทำให้หล่อขึ้นรูปและบัดกรีง่าย. 
คุณสมบัติทางเคมีหลัก:
ความเสถียร: ตะกั่วอนินทรีย์ค่อนข้างเสถียรและไม่ค่อยเกิดปฏิกิริยาในสภาพปกติ.
ปฏิกิริยากับอากาศและน้ำ: เมื่อถูกอากาศใหม่ๆ จะมีสีขาวอมน้ำเงิน แต่จะเปลี่ยนเป็นสีเทาเมื่อทำปฏิกิริยาออกซิเดชันกับอากาศเกิดเป็นชั้นออกไซด์ (PbO) ที่ช่วยป้องกันการกัดกร่อนต่อ (เช่น ต้านการกัดกร่อนในระบบท่อ).
ปฏิกิริยากับกรดและออกซิไดเซอร์: ทำปฏิกิริยาอย่างรุนแรงกับกรดแก่และสารออกซิไดซ์.
ปฏิกิริยากับสารรีดิวซิ่งเอเจนต์: ทำปฏิกิริยาได้.
การเกิดไอพิษ: เมื่อถูกความร้อนสูง จะเกิดควัน (fume) ตะกั่วที่เป็นพิษ. 
คุณสมบัติทางกายภาพที่เกี่ยวข้อง (เพื่อความเข้าใจ):
สัญลักษณ์: Pb (มาจาก Plumbum).
เลขอะตอม: 82.
จุดหลอมเหลว: 327.5 °C (ต่ำ).
จุดเดือด: 1740 °C.
ความหนาแน่น: 11.34 g/cm³ (หนัก). 
ความสำคัญและอันตราย:
พิษ: เป็นโลหะหนักที่เป็นพิษต่อสุขภาพอย่างมาก.
ประโยชน์: ด้วยจุดหลอมเหลวต่ำและต้านทานการกัดกร่อน จึงนิยมใช้ทำโลหะบัดกรี (ผสมดีบุก) การหล่อ และทำท่อในอุตสาหกรรม. 
โดยสรุป ตะกั่วแท่งมีคุณสมบัติทางเคมีที่ค่อนข้างเสถียรแต่ทำปฏิกิริยาได้ดีกับสารบางชนิดเมื่อได้รับความร้อนหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม แต่มีอันตรายจากพิษร้ายแรงจึงต้องระมัดระวังในการใช้งานและการกำจัด. 

การใช้งาน ตะกั่วแท่ง ในอุตสาหกรรม

ตะกั่วแท่งใช้ในอุตสาหกรรมหลักๆ คือ แบตเตอรี่ (ทำแผ่นกริด), อิเล็กทรอนิกส์ (ตะกั่วบัดกรีเชื่อมวงจร), และเป็นโลหะผสมเพื่อ ป้องกันรังสี (อุปกรณ์การแพทย์, โรงงานนิวเคลียร์), ทำน้ำหนัก (ลูกอวน, ตัวถ่วงในเครื่องจักร) และหล่อชิ้นส่วนต่างๆ. ปัจจุบันมีการพัฒนาตะกั่วบัดกรีไร้สารตะกั่ว (Lead-free) เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม. 
 
การใช้งานหลักของตะกั่วแท่ง:
อุตสาหกรรมแบตเตอรี่: เป็นวัตถุดิบสำคัญในการทำแผ่นกริด (ตะกั่วผสมแอนติโมนี) และขั้วแบตเตอรี่.
อิเล็กทรอนิกส์และไฟฟ้า: ใช้ทำ ตะกั่วบัดกรี ผสมดีบุกเพื่อเชื่อมต่อส่วนประกอบในแผงวงจร (PCB), เครื่องใช้ไฟฟ้า, คอมพิวเตอร์, และสายเคเบิล.
การป้องกันรังสี: ความหนาแน่นสูงของตะกั่วใช้เป็นเกราะป้องกันรังสีเอกซ์และรังสีไอออไนซ์ในทางการแพทย์ (ผ้ากันเปื้อน, แผงกั้น) และโรงงานนิวเคลียร์.
โลหะผสมและหล่อขึ้นรูป:ลูกปืนและกระสุนปืน: ผสมกับสารอื่น เช่น อาร์เซนิก.
ตัวพิมพ์: ในอุตสาหกรรมพิมพ์ (เก่า).
ฟิวส์ไฟฟ้า.
น้ำหนักถ่วง: ลูกอวนประมง, ตัวถ่วงในเครื่องจักร.
สารเคมีและสี: เป็นส่วนประกอบในสี, พลาสติก, เซรามิก และสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช (ในรูปสารประกอบตะกั่ว). 
 
ข้อควรระวัง:
เนื่องจากความเป็นพิษ การใช้งานตะกั่วในหลายภาคส่วน เช่น สีและน้ำมันเบนซินได้ถูกยกเลิกแล้ว และมีการใช้ตะกั่วบัดกรีไร้สารตะกั่วมากขึ้นในวงการอิเล็กทรอนิก

-------------

บทบาทของตะกั่วแท่ง กับอุตสาหกรรม แบตเตอรี่ไทย

ตะกั่วแท่ง (Lead Ingots) เป็นวัตถุดิบหลักสำคัญในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดในไทย โดยผลิตจากตะกั่วรีไซเคิลเป็นส่วนใหญ่ ผ่านกระบวนการหลอมตะกั่วเก่าจากแบตเตอรี่ใช้แล้วเพื่อนำมาหล่อเป็นแท่ง (Lead Ingots) แล้วส่งต่อให้โรงงานผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ แบตเตอรี่รถยก (Traction Battery) และอื่นๆ ซึ่งอุตสาหกรรมนี้มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจและการรีไซเคิล แต่ก็ต้องจัดการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวด โดยมีผู้ประกอบการในไทยที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและรีไซเคิลตะกั่วแท่งเพื่อป้อนโรงงานแบตเตอรี่. 
บทบาทของตะกั่วแท่งในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่
วัตถุดิบหลัก: ตะกั่วแท่งทำหน้าที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตแผ่นธาตุ (Plates) ทั้งขั้วบวกและขั้วลบภายในแบตเตอรี่.
การผลิต: โรงงานหลอมตะกั่วจะนำแบตเตอรี่ที่ใช้แล้ว (Spent Batteries) มาผ่านกระบวนการรีไซเคิล เพื่อแยกตะกั่วออกมาหลอมเป็นตะกั่วแท่งคุณภาพต่างๆ.
การใช้งาน: ตะกั่วแท่งเหล่านี้จะถูกส่งไปให้โรงงานผลิตแบตเตอรี่ เพื่อหล่อเป็นโครงสร้างตะกั่วในแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์, รถยกไฟฟ้า (Electric Forklifts) และระบบสำรองไฟ (UPS). 
โครงสร้างอุตสาหกรรมในไทย
ผู้ผลิต/หลอมตะกั่ว: มีผู้ประกอบการที่เชี่ยวชาญในการรีไซเคิลตะกั่ว และผลิตตะกั่วแท่งคุณภาพสูง.
ผู้ผลิตแบตเตอรี่: โรงงานผลิตแบตเตอรี่ต่างๆ ในประเทศเป็นผู้ซื้อตะกั่วแท่งรายใหญ่.
ความท้าทาย: การจัดการด้านสิ่งแวดล้อมจากการหลอมตะกั่ว และการจัดการแบตเตอรี่ใช้แล้วยังคงเป็นประเด็นสำคัญ. 
สารเคมีและเชื้อเพลิงที่เกี่ยวข้อง
สารผสม: ในการผลิตตะกั่วแท่งและแบตเตอรี่ มีการใช้สารเคมีเสริม เช่น พลวง (Antimony), ดีบุก (Tin) เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติของตะกั่ว และสารเคมีอื่นๆ ในกระบวนการผลิตและบำบัดน้ำเสีย.
เชื้อเพลิง: ใช้ถ่านโค้ก, LPG (ก๊าซปิโตรเลียมเหลว) หรือออกซิเจนในการหลอมตะกั่วในเตาหลอม. 
สรุปคือ ตะกั่วแท่งคือหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดในไทย ซึ่งขับเคลื่อนด้วยระบบการรีไซเคิลแบตเตอรี่ใช้แล้ว เพื่อสร้างวงจรเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และลดการพึ่งพาตะกั่วบริสุทธิ์.

---------

ส่วนประกอบที่ สมดุลย์ กันระหว่าง ตะกั่ว และ พลวง คู่ธาตุผสมในอุตสาหกรรม

ตะกั่ว (Lead, Pb) และ พลวง (Antimony, Sb) เป็นโลหะที่มักถูกนำมาผสมกันเพื่อเพิ่มคุณสมบัติ เช่น ใช้ทำแผ่นธาตุในแบตเตอรี่รถยนต์ ทำให้ตะกั่วแข็งขึ้น ทนทานขึ้น และเหมาะกับการใช้งานหลากหลาย เช่น ในกระสุนปืน หรือตัวพิมพ์ โดยตะกั่วเป็นโลหะอ่อนสีเทาอมน้ำเงิน แต่เมื่อผสมพลวงจะทำให้แข็งและมีคุณสมบัติเชิงกลที่ดีขึ้น เป็นส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมโลหะผสม. 
ความแตกต่างและคุณสมบัติ:
ตะกั่ว (Lead - Pb): โลหะอ่อนเนื้อนุ่ม สีขาวอมน้ำเงิน (เมื่อตัดใหม่) เปลี่ยนเป็นเทาเมื่อสัมผัสอากาศ เป็นตัวนำไฟฟ้าและความร้อนที่ดี.
พลวง (Antimony - Sb): กึ่งโลหะสีขาวคล้ายเงิน มีลักษณะเป็นเกล็ดผลึกแข็งเปราะ ไม่นำไฟฟ้าความร้อนได้ดีเท่าตะกั่ว แต่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและทนทานเมื่อผสมกับโลหะอื่น. 
การใช้งานร่วมกัน (โลหะผสมตะกั่ว-พลวง):
แบตเตอรี่: ผสมในแผ่นธาตุตะกั่ว เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความทนทานต่อการกัดกร่อน.
กระสุนปืน: ทำให้กระสุนมีความแข็งและคงรูปได้ดีขึ้น.
ตัวพิมพ์: ผสมกับดีบุกและตะกั่วทำตัวพิมพ์ในโรงพิมพ์สมัยก่อน.
อื่นๆ: ใช้ในอุตสาหกรรมไม้ขีดไฟ และเป็นส่วนประกอบในโลหะผสมต่างๆ. 


โดยสรุป ตะกั่วคือโลหะหลัก ส่วนพลวงเป็น "สารเสริม" ที่ช่วยปรับปรุงคุณสมบัติทางกายภาพของตะกั่วให้แข็งแรง ทนทาน และใช้งานได้หลากหลายมากขึ้นในอุตสาหกรรม. 

--------

ปริมาณการใช้งาน ตะกั่ว และทิศทางการใช้งานในอุตสาหกรรมไทย 

การใช้ตะกั่วในอุตสาหกรรมไทยหลักๆ อยู่ใน การผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ ซึ่งเคยมีการใช้สูงถึง ~145,000 ตันต่อปี (ปี 2550-2551) และ อุตสาหกรรมสีทาอาคาร แม้จะมีกฎหมายควบคุม (ห้ามสีเกินมาตรฐาน) ตั้งแต่ปี 2560 แต่ยังพบสีที่ปนเปื้อนสูงในตลาด (เกิน 100 ppm) ซึ่งบ่งชี้ว่าการบังคับใช้กฎหมายยังต้องเข้มงวดขึ้น. 
การใช้หลัก (ในอดีต-ปัจจุบัน)
อุตสาหกรรมแบตเตอรี่: เป็นภาคส่วนใหญ่ที่สุด โดยมีการใช้ตะกั่วในรูปของโลหะตะกั่ว (Lead Metal) เพื่อผลิตแบตเตอรี่รถยนต์เป็นหลัก.
อุตสาหกรรมสี: แม้มีกฎหมายห้าม แต่ยังคงพบสีทาอาคารที่มีตะกั่วสูงกว่ามาตรฐาน (เกิน 100 ppm) อยู่ในตลาดไทย (ข้อมูลปี 2568) ซึ่งเป็นแหล่งปนเปื้อนหลักในเด็ก. 

-------

แบตเตอรี่ และ ตะกั่วและอนาคตการใช้งาน

ภาคแบตเตอรี่ (การรีไซเคิล):แหล่งตะกั่วหลัก: ตะกั่วที่ใช้ในไทยส่วนใหญ่มาจากแบตเตอรี่ใช้แล้ว (ประมาณ 85%).
การพัฒนาเทคโนโลยี: กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (DPIM) และสถาบันวิจัยอื่น ๆ พัฒนาเทคโนโลยีการรีไซเคิลเพื่อนำตะกั่วกลับมาใช้ใหม่ให้ได้มากที่สุด และจัดการของเสียจากกระบวนการผลิต (ตะกรันตะกั่ว) อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น นำไปผสมวัสดุก่อสร้าง หรือฝังกลบอย่างถูกต้อง.
ภาคอุตสาหกรรมอื่น ๆ (เช่น ก่อสร้าง, อิเล็กทรอนิกส์):การลดการใช้: คาดว่าจะมีการเปลี่ยนไปใช้วัสดุอื่นทดแทนตะกั่ว เช่น ตะกั่วผสมในคอนกรีต หรือการปรับเปลี่ยนส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดความเสี่ยงและปฏิบัติตามมาตรฐานสากล. 

ความท้าทายและโอกาส
ท้าทาย: การจัดการตะกั่วที่ตกค้างในอาคารเก่าและการควบคุมการลักลอบนำเข้า/ใช้ตะกั่วผิดกฎหมายยังคงเป็นปัญหา.
โอกาส: การวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อหาวัสดุทางเลือก และการยกระดับเทคโนโลยีการรีไซเคิลตะกั่วให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น. 
โดยสรุป อนาคตการใช้ตะกั่วในไทยจะเน้นการบริหารจัดการอย่างจำกัดและปลอดภัย เพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะเด็กเล็ก โดยมุ่งไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่มีการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่. 

----------


Related Content
ทิศทางการใช้ อลูมิเนียมในอนาคต (ปี2026) , ทิศทางราคาอลูมิเนียม และ สถานะการณ์ Carbon Footprint
ทิศทางในอนาคตของอลูมิเนียมไทยมุ่งเน้น ความยั่งยืน (Sustainability) และ เทคโนโลยีขั้นสูง (Advanced Technology) โดยจะเน้น อลูมิเนียมคาร์บอนต่ำ และ อลูมิเนียมรีไซเคิล เพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และการก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมพัฒนา การเคลือบผิวใหม่ๆ และระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เช่น โครงการ Aluminium Loop เพื่อลดต้นทุน เพิ่มมูลค่า และรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก. แนวโน้มสำคัญ: การเติบโตในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV): รถ EV ต้องการใช้อลูมิเนียมเพิ่มขึ้นมากเพื่อลดน้ำหนัก ช่วยประหยัดพลังงานและเพิ่มระยะทางวิ่ง. ความต้องการอลูมิเนียมคาร์บอนต่ำ (Low-Carbon Aluminium): ตอบสนองมาตรการสิ่งแวดล้อมทั่วโลก (เช่น EU CBAM) โดยเฉพาะการใช้อลูมิเนียมรีไซเคิลสูง ซึ่งลดการปล่อยคาร์บอนได้มาก. เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy): โครงการอย่าง "Aluminium Loop" ขับเคลื่อนการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์อลูมิเนียมครบวงจร เพื่อลดขยะและสร้างมูลค่า. นวัตกรรมการเคลือบผิว (Coating Innovations): การเคลือบผิวแบบใหม่ๆ เพื่อเพิ่มฟังก์ชัน เช่น ป้องกันแบคทีเรีย (Anti-microbial) ทำความสะอาดง่าย (Easy-to-clean) สร้างผิวสัมผัสใหม่. การก่อสร้างแบบสำเร็จรูปและโมดูลาร์ (Modular Construction): ใช้อลูมิเนียมมากขึ้นในการผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูปนอกสถานที่ เพื่อความแม่นยำและลดของเสีย. การบูรณาการพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy): ใช้อลูมิเนียมในโครงสร้างรองรับแผงโซลาร์เซลล์ และระบบพลังงานสะอาดอื่นๆ. ความท้าทาย: ต้นทุนพลังงาน & ห่วงโซ่อุปทาน: ความผันผวนของราคาพลังงานและความท้าทายในห่วงโซ่อุปทาน. การแข่งขัน: ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิล ทำให้ไทยต้องพัฒนาต่อเนื่องเพื่อรักษาผู้นำ. โอกาส: ไทยมีศักยภาพด้านแรงงานฝีมือ และอุตสาหกรรมต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำที่ครบวงจร. การปรับตัวสู่การผลิตคาร์บอนต่ำสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะการเป็นผู้นำด้านอลูมิเนียมรีไซเคิล. สรุป: อลูมิเนียมไทยจะก้าวสู่ยุคใหม่ที่เน้น "เขียว" (Green) และ "ฉลาด" (Smart) โดยการรีไซเคิลและเทคโนโลยีจะเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างการเติบโตและความยั่งยืน.
16 Dec 2025
REES Rare Earth Element, แร่หายาก คือ อะไรใช้งาน อะไร เกร็ดความรู้ รวมรวมโดย SO OK TRADING
แร่หายาก (Rare Earth Elements: REEs) คือกลุ่มธาตุโลหะ 17 ชนิดที่มีความสำคัญต่อเทคโนโลยีสมัยใหม่ (เช่น รถไฟฟ้า กังหันลม สมาร์ทโฟน) แม้ชื่อจะบอกว่า "หายาก" แต่จริงๆ แล้วมีอยู่ในโลก แต่กระจายตัวไม่เข้มข้นและแยกสกัดยาก ทำให้มีต้นทุนสูง และมักพบรวมกับแร่ธาตุอื่น ๆ เช่น แร่ดีบุก ทังสเตน และพบได้ในหลายประเทศ โดยเฉพาะจีนที่ครองตลาดใหญ่. แร่หายากคืออะไร? กลุ่มธาตุ 17 ชนิด: ประกอบด้วยธาตุในกลุ่มแลนทาไนด์ (Lanthanides) 15 ธาตุ + สแกนเดียม (Sc) และ อิตเทรียม (Y). ธาตุสำคัญ: ซีเรียม (Ce), นีโอไดเมียม (Nd), ยูโรเปียม (Eu), เทอร์เบียม (Tb). ทำไมถึงสำคัญ? ส่วนประกอบเทคโนโลยี: ใช้ทำแม่เหล็กกำลังสูง (รถยนต์ไฟฟ้า), สารเรืองแสง (LED), ตัวเร่งปฏิกิริยา (ลดมลพิษ), ไฟเบอร์ออปติก, เครื่อง MRI. พบได้ที่ไหน? กระจายทั่วโลก: แต่แหล่งที่พบมากและแปรรูปได้ง่ายมีไม่กี่แห่ง (เช่น จีน, เวียดนาม, บราซิล). ในไทย: พบกระจายทางภาคตะวันตก (เชียงราย, แม่ฮ่องสอน, กาญจนบุรี) มักปนกับแร่ดีบุกและทังสเตน. ความท้าทายในการทำเหมือง: ต้นทุนสูง และกระบวนการสกัดซับซ้อน ต้องใช้เทคโนโลยีสูง. ก่อให้เกิดมลพิษทางสิ่งแวดล้อมหากจัดการไม่ดี. ---------------
14 Dec 2025
เกร็ดความรู้ ซิลิคอน by SO OK
ซิลิคอน (Silicon) คือธาตุสารกึ่งตัวนำสำคัญที่พบมากบนเปลือกโลก (ในรูปซิลิกา) ใช้ทำชิปอิเล็กทรอนิกส์, แผงโซลาร์เซลล์, แก้ว, เซรามิก, และผสมโลหะ; ส่วน ซิลิโคน (Silicone) คือพอลิเมอร์ที่ใช้ทำกาวอุดรอยรั่ว, สารหล่อลื่น, เครื่องสำอาง, ยา, และอุปกรณ์การแพทย์ คุณสมบัติเด่นคือทนความร้อน, ทนสารเคมี, เป็นฉนวนไฟฟ้า, ยืดหยุ่น, และกันน้ำ แม้ชื่อคล้ายกัน แต่คือคนละอย่าง. เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ ซิลิคอน (Silicon - Si) (ธาตุ) ธาตุสำคัญ: เป็นธาตุที่พบมากเป็นอันดับสองในเปลือกโลก (รองจากออกซิเจน) มักอยู่ในรูปซิลิก้า (Silicon Dioxide - SiO2) เช่น ทราย, ควอตซ์. หัวใจอิเล็กทรอนิกส์: ซิลิคอนบริสุทธิ์พิเศษ (Doped Silicon) เป็นหัวใจของวงจรรวม (IC) และเซมิคอนดักเตอร์ในคอมพิวเตอร์, สมาร์ทโฟน, และแผงโซลาร์เซลล์. โลหะผสม: ผสมกับอะลูมิเนียมเพื่อทำชิ้นส่วนรถยนต์ และผสมเหล็กเพื่อทำเหล็กกล้า. เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ ซิลิโคน (Silicone - พอลิเมอร์สังเคราะห์) คุณสมบัติมหัศจรรย์: ทนร้อน/เย็นจัด, กันน้ำ, ยืดหยุ่น, เป็นฉนวนไฟฟ้า, ทนสารเคมี, ไม่ติดไฟ. งานก่อสร้าง: กาวซิลิโคนใช้อุดรอยต่อกระจก, หน้าต่าง, หลังคา, ป้องกันน้ำรั่วซึม. เครื่องสำอาง: ทำให้ผลิตภัณฑ์เกลี่ยง่าย, เงางาม, ติดทนนาน (เช่น ลิปสติก), นุ่มลื่น (เช่น แชมพู). ทางการแพทย์: ใช้ในอุปกรณ์ทางการแพทย์, และซิลิโคนเจลสำหรับแผลเป็น. ระวังโรคปอด: การสูดดมฝุ่นผงซิลิก้า (ซิลิคอนไดออกไซด์) เป็นเวลานานในงานก่อสร้าง (เช่น โม่หิน) อาจทำให้เป็นโรคปอดฝุ่นหิน (Silicosis) ได้. ข้อแตกต่างที่สำคัญ ซิลิคอน (Silicon - Si): ธาตุโลหะ (สารกึ่งตัวนำ). ซิลิโคน (Silicone): สารประกอบพอลิเมอร์สังเคราะห์ที่มาจากซิลิคอน (มีออกซิเจนและคาร์บอน) มีความยืดหยุ่นและใช้งานหลากหลายกว่า.
11 Dec 2025
This website uses cookies for best user experience, to find out more you can go to our Privacy Policy and Cookies Policy
Compare product
0/4
Remove all
Compare
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy